สีในภาพถ่ายจะเป็นตัวกำหนดรูปลักษณ์โดยรวมและความรู้สึกของภาพ อันที่จริง ช่างภาพมากฝีมือจะปรับสีเพื่อเพิ่มความสวยงามในแบบที่ตนชอบให้กับภาพถ่ายของตน อย่างเช่น Wes Anderson ผู้มีโทนสีเฉพาะในดวงใจอยู่เสมอ สีสามารถแบ่งตามการตั้งค่าได้เป็นสามกลุ่ม ได้แก่

Colour balance
Hue/Saturation
Contrast

การปรับสี/การสร้างสมดุลแสงสีขาว

สมดุลแสงสีขาวจะทำให้กล้องของคุณสามารถปรับโทนสีให้มีสมดุลสีที่เป็นธรรมชาติ คุณสมบัตินี้ช่วยปรับสีในภาพถ่ายให้มีความเป็นกลาง จึงไม่มีสีใดซีดจางเกินไป ออกโทนฟ้ามากเกินไป หรือออกโทนเขียวมากเกินไป

กดปุ่มเมนู (MENU) และไปที่การตั้งค่ากล้องเพื่อหาตัวเลือก White Balance จากนั้น คุณจะเห็นพรีเซ็ตมากมายแสดงขึ้นที่หน้าจอ การตั้งค่าเริ่มต้นคือ AWB Auto ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับการถ่ายภาพในสถานการณ์ปกติทั่วไป อย่างไรก็ตาม การใช้ AWB Auto อาจไม่ได้ผลในบางสถานการณ์ โดยมักเกิดขึ้นเมื่อฉากหนึ่ง ๆ มีแหล่งกำเนิดแสงหลายแห่งหรือถูกรบกวนจากสภาพอากาศ

กรณีเช่นนี้เหมาะที่จะใช้การตั้งค่าแบบอื่นเพื่อสร้างสมดุลแสงสีขาว เป็นต้นว่า Daylight และ Cloudy และการตั้งค่าต่าง ๆ สำหรับแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ลองค้นหาและลองใช้งานการตั้งค่าต่าง ๆ เหล่านี้ดู!

ความอิ่มตัว

เมื่อทำการปรับโทนสีในกล้องเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องของเฉดสีและความอิ่มตัวของสี ความอิ่มตัวของสี (Colour saturation) คือความเข้มและความสดของสีที่แสดงในภาพ สีที่มีความอิ่มตัวสูงจะยิ่งมีความสดใสเจิดจ้า และภาพจะยิ่งดูเข้มข้นร้อนแรงขึ้น ความอิ่มตัวต่ำหมายถึงสีจะมืดทึบกว่าและเจิดจ้าน้อยกว่า ภาพที่ออกมาจึงจะดูหม่นกว่า

ภาพที่มีความอิ่มตัวสูง

ภาพที่มีความอิ่มตัวต่ำ

เมื่อจะทำการปรับความอิ่มตัวในกล้องของคุณ หากเป็นกล้องที่มีการตั้งค่า Creative Look: เมนู → (การรับแสง/สี) → [สี/โทน] → [Creative Look]

สำหรับกล้องรุ่นเก่าที่มีการตั้งค่า Creative Style: เมนู → (การตั้งค่ากล้อง) → [Creative Style] → การตั้งค่าที่ต้องการ

คอนทราสต์

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ควรใส่ใจเมื่อทำการลองปรับโทนสีในกล้องคือคอนทราสต์ (Contrast) ภาพทุกภาพเป็นส่วนผสมของส่วนเงา ส่วนสว่าง และส่วนกึ่งกลาง ส่วนเงา (Shadows) คือส่วนที่มืดที่สุด ส่วนสว่าง (Highlights) คือส่วนที่สว่างที่สุด และส่วนกึ่งกลาง (Midtones) คือระหว่างกลางของทุกอย่าง

ภาพที่ถ่ายโดยใช้พรีเซ็ต FL

ภาพที่ถ่ายโดยใช้พรีเซ็ต IN

Creative Look (Alpha 7S III, Alpha 7 IV)

การปรับสีสามารถทำได้อีกวิธีหนึ่ง นั่นคือใช้การตั้งค่า Creative Look โดยจะมีค่าพรีเซ็ตเฉพาะหรือที่เรียกว่า “สไตล์” ให้ในกล้องทั้งหมดสิบค่า ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างอารมณ์หรือบรรยากาศได้ในแบบที่คุณต้องการ วิธีนี้ไม่เพียงตั้งค่าได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ (ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้) แต่ยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ช่างภาพมือใหม่ในการสร้างสรรค์ผลงานของตนอีกด้วย คุณสามารถเลือกสไตล์ที่สอดคล้องกับอารมณ์ของภาพถ่ายในแบบที่คุณต้องการจะสื่อออกมา ยกตัวอย่างเช่น สไตล์ SH จะให้บรรยากาศที่สดใสพร้อมความปลอดโปร่ง นุ่มนวล มีชีวิตชีวา ทำให้เกิดอารมณ์อ่อนโยนนุ่มละมุน ในขณะที่สไตล์ IN จะลดคอนทราสต์และความอิ่มตัวลงเพื่อแสดงถึงความงามประณีตในแบบวินเทจ

ภาพที่ถ่ายโดยใช้สไตล์ SH

ภาพที่ถ่ายโดยใช้สไตล์ IN

หากตัวเลือกที่มีอยู่ตอบสนองต่อความต้องการของคุณได้ในขอบเขตจำกัด คุณอาจเลือกกำหนดโปรไฟล์ Creative Look ในแบบของคุณเองได้โดยการปรับละเอียดทั้งในส่วนของคอนทราสต์ ส่วนสว่าง ส่วนเงา การเลือนภาพ ความอิ่มตัว ความคม ช่วงความคม และความชัดใสตามโหมดที่คุณเลือกเป็นหลัก เมื่อปรับเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถบันทึกไว้เป็นรูปลักษณ์ที่กำหนดเอง (custom look) สำหรับการใช้งานในครั้งต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถบันทึกโหมดเดียวกันนี้ในเวอร์ชันที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยได้ด้วย เพื่อจะได้ใช้งานโหมดที่คุณชอบในเวอร์ชันที่ต่างออกไปสำหรับฉากต่าง ๆ

Creative Style (Alpha 7C, Alpha 9 II, Alpha 7R IV)

ฟังก์ชัน Creative Style จะเหมือนกับ Creative Look คือมีค่าพรีเซ็ตเฉพาะเอาไว้ให้ในกล้อง Sony Alpha รุ่นเก่า สไตล์จะมีให้เลือกตั้งแต่ 13 ถึง 16 แบบ ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง คุณจึงสามารถถ่ายภาพตัวแบบหนึ่ง ๆ ที่ให้ความประทับใจต่างกันได้ด้วยการปรับโทนสี ความลึกของสี ความสว่าง คอนทราสต์ และความคม นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับค่าพรีเซ็ตแบบละเอียดเพื่อให้ได้ Creative Look ในแบบที่คุณต้องการได้เช่นกัน

ภาพที่ถ่ายโดยใช้สไตล์ Vivid

ภาพที่ถ่ายโดยใช้สไตล์ Sunset

คุณจะถ่ายภาพอะไรไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการแก้ไขสีคือคุณสนุกไปกับมัน เพราะอย่างนั้น สนุกกับการตั้งค่าแล้ววาดลวดลายให้สุดเหวี่ยงไปเลย! ถ่ายภาพให้เจิดจ้าร้อนแรงหรือหม่นทึมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อค้นหาสี โทน และอารมณ์ในแบบที่คุณชื่นชอบที่สุด