กล้อง Alpha 1 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ กล่องตัวท็อปที่ถ่ายภาพขนาด 50.1 ล้านพิกเซลด้วยความเร็วอันน่าตะลึงถึง 30 เฟรมต่อวินาที ไปพร้อม ๆ กับการเปิดรับแสงอัตโนมัติและโฟกัสอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องด้วยขนาดตัวที่แสนกะทัดรัด ปิดท้ายด้วยความละเอียด 8k ที่ 30 fps, การคำนวณ AF/AE 120 ครั้งต่อวินาที และการถ่ายแบบ Blackout-free จนต้องถามกับเจ้าของคนใหม่ว่าจะเริ่มจากจุดไหนก่อนดี เราได้ทำการตรวจเทียบการตั้งค่า 5 รายการจากชุมชนของเราที่คุณสามารถเริ่มทำได้จากกล้องรุ่น ONE และเฉพาะ Alpha 1 เท่านั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากสำหรับช่างภาพสายธรรมชาติหรือทิวทัศน์

#1 ดึงศักยภาพสูงสุดของ MP ด้วย HEIF

หากคุณอยากได้ภาพที่มีคุณภาพสูงแบบง่าย ๆ และใช้พื้นที่ไฟล์ขนาด 50 MP ให้น้อยที่สุด ให้เข้าไปที่ “Image Quality” (คุณภาพของภาพ) ในการตั้งค่าของคุณแล้วเลือก HEIF เหนือ JPEG ภาพที่ถ่ายด้วยรูปแบบ High Efficiency Image File จะมีขนาดไฟล์เล็กกว่าและมีความลึกของบิตสูงกว่า ซึ่งจะทำให้แถบสีลดลง นี่คือเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง  ขอแนะนำให้ใช้รูปแบบไฟล์นี้หากคุณใช้อุปกรณ์ Mac และ iOS เป็นหลัก แทนที่จะยึดติดอยู่กับ JPEG อย่าลืมเลือก RAW แบบบีบอัด + HEIF/JPEG เพื่อเพิ่มอิสระในการตัดต่อภาพ เราจะพูดถึงการบีบอัดกันต่อในหัวข้อหลัง ๆ ของบทความนี้

#2 ทำความเข้าใจกับการลดนอยส์

แม้ว่าการลดนอยส์จะมีประโยชน์โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง แต่ดูเหมือนช่างภาพสายธรรมชาติและทิวทัศน์ที่มากประสบการณ์ส่วนใหญ่จะเห็นตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ควรปิดการลดนอยส์ในกล้องเอาไว้ตลอดเวลาถ้าสามารถทำได้ เนื่องจากควรทำการแก้ไขในขั้นหลังจากนี้มากกว่า โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพช่วงกลางวันที่สว่างปลอดโปร่ง การลดนอยส์อีกชั้นอาจทำให้รายละเอียดโดยรวมและความคมชัดลดลง เมื่อใช้การตั้งค่าคุณภาพของภาพ ควรหาและปิด High ISO NR และ Long Exposure NR

#3 บันทึกด้วยการ์ดทั้งสองชุด

Alpha 1 มีข้อดีจากการมีช่องเสียบการ์ดสองจุด เมื่อมีไฟล์ขนาดใหญ่ จึงอาจดูเหมือนว่าจะรวมพื้นที่จัดเก็บทั้งหมดของการ์ดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะพึงพอใจมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะเมื่อมีการป้องกันไม่ให้ข้อมูลเกิดความเสียหายระหว่างที่ทำการบัฟเฟอร์ข้อมูลขนาดใหญ่ระดับล้านพิกเซลด้วยความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที ช่างภาพส่วนใหญ่มักแนะนำให้เปิดใช้งาน Simultaneous Recording และ Auto Switch Media ON นอกจากนี้ การใช้การ์ดหน่วยความจำ CFexpress Type A ที่มีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 700MB/วินาที จะช่วยจัดการกับบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

#4 ยกระดับคุณภาพของการแสดงผล

กล้อง Alpha 1 ให้ความละเอียดที่น่าเหลือเชื่อไม่เฉพาะเพียงคุณภาพของภาพ แต่ยังรวมถึงคุณภาพของการแสดงผลที่สามารถมองเห็นได้ผ่านช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์สมรรถนะสูง 9.44 ล้านจุดและทัชพาเนล LCD คุณสามารถดึงศักยภาพของคุณสมบัตินี้เพื่อเปิดรับประสบการณ์การมองเห็นที่น่าตะลึงได้ด้วยการเลือกคุณภาพของการแสดงผลในเมนูการตั้งค่าให้เป็น “High” (สูง) และอย่าลืมเปลี่ยนอัตราเฟรมช่องมองภาพเป็น “Standard” (มาตรฐาน) เสียก่อนด้วย ความยอดเยี่ยมนี้ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ แต่พวกเราในชุมชนต่างคิดว่ามันคุ้มที่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่ม

#5 ตั้งโหมด AF เป็น AF-C

ในตอนนี้เราจะทำการปรับการตั้งค่าทางกายภาพที่เป็นคุณสมบัติของ Alpha 1 นั่นคือปุ่มโหมด AF ที่ด้านบนสุด ในบรรดาตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีให้ เราขอแนะนำให้ใช้โฟกัสต่อเนื่อง AF-C เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของคุณสมบัติสำคัญในกล้องของคุณ นั่นคือ การถ่ายภาพ 50 MP ที่ 30fps

เคล็ดลับพิเศษ - การกำหนดเอง

คุณสามารถกำหนดการใช้งานของปุ่มทั้ง 16 ปุ่มบนตัวกล้องได้อย่างเต็มที่โดยอิงตามความชอบในการถ่ายภาพของคุณเป็นหลัก เมื่อกดปุ่ม Fn ที่ด้านหลังจะปรากฏปุ่มเมนูที่กำหนดได้เองอีก 12 ปุ่ม เรามีเนื้อที่ไม่มากพอที่จะลงปุ่มต่าง ๆ ทั้งหมดที่ชุมชนแนะนำมาได้จริง ๆ แต่คุณรู้ดีว่ามีโอกาสมากมายไม่สิ้นสุดที่คุณจะทดลองและปรับการตั้งค่ากล้องของคุณไปตามสถานการณ์เพื่อให้ Alpha 1 กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งคุณรู้อยู่แล้วใช่ไหม อย่างไรก็ตาม เราได้รวบรวมข้อเสนอแนะแบบด่วนมาให้คุณได้ทดลองดูก่อนดังนี้:

• EYE AF - เพื่อสลับไปมาระหว่างมนุษย์ สัตว์ และนกบางชนิดโดยเฉพาะ
• อัตราเฟรมช่องมองภาพ - ต้นแบบที่เคลื่อนที่เร็วกับต้นแบบที่เคลื่อนที่ช้า
• AEL hold - ล็อกการเปิดรับแสงอัตโนมัติซึ่งเป็นตัวเลือกที่สำคัญ
• ความสว่างหน้าจอ - เหมาะสำหรับยามค่ำคืน

ลองการตั้งค่ากล้องเหล่านี้กับกล้อง Alpha 1 ของคุณดูก่อน แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การตั้งค่าสุดท้ายของคุณแน่ ๆ เพราะคุณยังจะได้ค้นพบอะไรอีกมากมายบนเส้นทางการถ่ายภาพและวิดีโอของคุณ