ใครจะไปคิดว่า “อาหารตา” มีความหมายมากกว่าการเป็นแค่สำนวน และกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำไปทั่วโลกแล้ว ทั้งสีสัน การจัดองค์ประกอบ และรูปร่างของอาหารจานเอก ที่สามารถเชิญชวนให้ทุกคนหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพสักหน่อยก่อนลงมือรับประทาน อีกนัยหนึ่งคือ อาหารการกินแท้จริงแล้วเป็นอาหารตาก่อนเสมอ

นอกเหนือจากการโพสต์ Instagram เล่นๆ เกี่ยวกับอาหารการกินทั่วไปในชีวิตประจำวันของคุณแล้ว ดูเหมือนว่าภาพถ่ายอาหารเองก็มีการพัฒนาอย่างจริงจังเพื่อให้ดูน่ากินยิ่งขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าจะเป็นภาพที่กระตุ้นความอยากอาหารชวนน้ำลายสอ โน้มน้าวให้ผู้รับประทานอาหารสั่งซื้ออาหารมื้อพิเศษจากร้านอาหาร หรือแม้แต่กระตุ้นยอดขายหนังสือทำอาหาร และอื่นๆ

แต่จริงๆ แล้วภาพถ่ายอาหารมีความหมายมากกว่าการเป็นอาหารบนจานที่วางอยู่ตรงหน้าคุณหรือไม่

“งานของฉันคือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านอาหาร” Gabby Cantero ช่างภาพมืออาชีพด้านการถ่ายภาพอาหารกล่าว “ฉันอยากทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าได้อยู่ตรงนั้นกับเรา ณ เวลานั้น” 

Gabby ได้เริ่มทำธุรกิจของตัวเองชื่อว่า Studio Cantero ขณะเดียวกันนั้นเธอก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนช่างภาพของ Sony Digital ประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ที่มีหลายภาระหน้าที่ให้บริการด้านการถ่ายภาพและวิดีโอมากมาย ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาฝ่ายสร้างสรรค์และผู้ดูแลจัดการโปรเจกต์ บริการเหล่านี้จะเป็นเหมือนโซลูชันด้านความสร้างสรรค์เพื่อแนะแนวทางสำหรับลูกค้าที่ไม่มีทักษะความรู้ โดยใช้ประโยชน์จากความชำนาญของสตูดิโอในการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ 

Gabby มีทักษะความชำนาญที่ครอบคลุม เธอเปิดเผยว่าการถ่ายภาพอาหารเป็นสิ่งที่เธอชำนาญและทำได้โดดเด่นเสมอ โดยเธอเริ่มจากความชื่นชอบในศาสตร์การทำอาหาร ซึ่งทำให้เธอได้เข้าศึกษาศิลปะการทำอาหารเป็นเวลาหนึ่งปี ตอนนี้เธอมีทักษะทั้งทางด้านเทคนิคและศิลปะ ช่างภาพผู้เก่งกล้าคนนี้จึงควรได้รับความชื่นชมอย่างแท้จริง

การถ่ายภาพนิ่งเทียบกับภาพอาหารที่มีการเคลื่อนไหว

การถ่ายภาพอาหารนั้นยากกว่าที่คิด เพราะจะต้องใช้ความรู้เฉพาะทางในการทราบว่าแบบใดให้ผลดีที่สุดและแบบใดที่ดูไม่น่าสนใจ ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ภาพอาหารดูแล้วชวนน้ำลายสอเท่านั้น แต่ยังต้องกระตุ้นอารมณ์ร่วมและดึงดูดทุกคนได้ด้วย 

Gabby แนะนำว่า “หากต้องการถ่ายภาพอาหาร คุณต้องเป็นคนช่างสังเกต”

เธออธิบายเน้นถึงความสำคัญในการใช้เวลาสำรวจสิ่งต่างๆ เช่น องค์ประกอบในจาน ซึ่งจะช่วยในเรื่องสไตล์ การวางเฟรม ความลึกของภาพ รวมถึงการพิจารณาหามุมกล้องที่ดีที่สุดด้วย 

สดใส ได้อารมณ์ และมีสีสัน เป็น 3 คำที่ใช้อธิบายภาพถ่ายอาหารในสไตล์ของ Gabby ภาพถ่ายของเธอมักเต็มไปด้วยรายละเอียด องค์ประกอบต่างๆ ของส่วนผสมที่เกือบจะสัมผัสได้อย่างสมจริง ความชำนาญในการวางองค์ประกอบของเธอยังแสดงให้เห็นในภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลลงตัวที่เด่นสะดุดตาในภาพกลุ่มอาหารไปจนถึงองค์ประกอบเดี่ยวต่างๆ ที่จะทำให้จานอาหารดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้น Gabby ประสบความสำเร็จในการใช้หลักองค์ประกอบเหล่านี้เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ชวนน้ำลายสอ

ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวางพื้นฐานในขั้นตอนการถ่ายภาพอาหารของ Gabby เท่านั้น เธอยังมีกลเม็ดเด็ดอีกประการนั่นคือ

 “การเทเครื่องดื่ม ไข่แดงที่ไหลเยิ้ม หรือการเคลื่อนไหวในครัวที่แสนยุ่ง” เธอกล่าว “อาหารมีอะไรมากกว่าที่คุณมองเห็น แม้แต่การทำอาหารเมนูที่ง่ายที่สุดก็ยังคงมีเรื่องราวให้บอกเล่าได้” 

เพื่อเป็นการรังสรรค์สัมผัสใหม่ที่จะดึงดูดให้คุณได้ลิ้มลองอาหารดีๆ Gabby จึงถ่ายภาพอาหารที่มีการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการทำให้หล่นลงมา การหยด การไหล หรือการสาดกระเซ็นใส่กันของส่วนผสมในการทำอาหาร รูปแบบการเคลื่อนไหวที่ดูแสนอร่อยเพลินตาจะช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นได้มากยิ่งขึ้น การจับภาพอย่างการชนแก้วแชมเปญเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง การจับภาพนิ่งขณะเทซอสให้ไหลลงบนจานอาหารที่ยิ่งชวนให้น้ำลายสอ การจับภาพน้ำตาลที่โปรยลงมาบนเค้กโรลรูปท่อนไม้รสช็อกโกแลตอันเป็นการบ่งบอกว่าวันคริสต์มาสกำลังจะมาถึง  

เคล็ดลับ 3 ประการสำหรับถ่ายภาพอาหารที่มีการเคลื่อนไหว  

1. ใช้ขาตั้งกล้อง

อาหารเป็นวัตถุที่อยู่นิ่ง แต่หากถ่ายภาพอาหารตอนที่มีการเคลื่อนไหว การถ่ายภาพนั้นก็จะไม่ต่างจากการถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจต้องเป็นคนที่ทำให้อาหารเคลื่อนไหว ดังนั้นขาตั้งกล้องจึงมีประโยชน์มากๆ 

2. พึงระวังความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสง

ความเร็วชัตเตอร์คือกุญแจสำคัญในการจับภาพเคลื่อนไหว คุณจะต้องมีกล้องที่รวดเร็วเพื่อจับภาพเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้ เช่น การเทนมลงแก้วมัก นอกจากนี้การเปิดรูรับแสงให้กว้างจะช่วยแยกตัววัตถุที่ถ่ายออกจากฉากพื้นหลัง ดังนั้นจึงสามารถสร้างความสนใจให้กับอาหารได้มากขึ้น 

3. ใช้ประโยชน์จากแสงเพิ่มเติม 

การใช้แหล่งกำเนิดแสงเพิ่มเติมอย่างเช่น แฟลชหรือสตริปบอกซ์ ช่วยให้ถ่ายภาพอาหารที่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยควบคุมแสงเพื่อให้ได้ความนุ่มนวลของภาพมากขึ้น หรือขับเน้นพื้นผิวของอาหารและรูปร่างให้โดดเด่นโดยใช้เงา  

การจับภาพช่วงเวลาแสนอร่อยให้อยู่หมัดด้วยอุปกรณ์ของ Sony  

Gabby เลือกใช้กล้องรุ่น Alpha จาก Sony เพื่อจับภาพช่วงเวลาแสนอร่อย ทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง กล้องมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าประทับใจมากมายพร้อมให้ใช้งาน นอกจากนี้กล้องรุ่น Alpha แต่ละตัวก็ยังมีขีดความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอีกด้วย 

สำหรับมือใหม่ น้ำที่ไหลออกจากขวดที่เห็นด้านบนได้รับการจับภาพไว้อย่างละเอียดด้วยกล้อง Alpha 7R IV ตั้งแต่สีสันที่โดดเด้งขึ้นมาไปจนถึงรูปทรงของการไหลที่สม่ำเสมอของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาพถ่ายนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความละเอียดของกล้องที่ 61 เมกะพิกเซล และความเร็วในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม 

กล้อง Alpha 7R III เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกกล้องที่ Gabby ใช้ในการถ่ายภาพ โดยกล้องมีเซ็นเซอร์ 24.2 เมกะพิกเซลและระบบการประมวลผลที่น่าประทับใจ ให้การถ่ายภาพที่ทรงพลังและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Gabby ยังไว้ใจโหมด APS-C ของกล้องในหลายโอกาสการถ่ายภาพด้วย 

“ฉันถ่ายภาพโดยใช้โหมดแมนนวลทั้งหมด เพื่อให้ฉันสามารถปรับ ISO และความเร็วชัตเตอร์ได้ง่าย ๆ” เธอกล่าวเพิ่ม “ฉันตั้งค่าการโฟกัสเป็นโฟกัสอัตโนมัติแบบช็อตเดียว (AF-S) และตั้งค่าฟังก์ชันการโฟกัสบางอย่างเองผ่านทางก้านควบคุมของกล้อง Alpha 7R III”

เธอเล่าว่าเพื่อนคู่หูที่ดีของกล้อง Alpha 7R III คือเลนส์ FE 24-70 มม. F2.8 GM ที่ไม่เพียงแต่ให้ความละเอียดขั้นสูงและฉากหลังโบเก้ที่นุ่มนวลเท่านั้น ช่างภาพอาหารยังใช้ประโยชน์จากการซูมอเนกประสงค์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย 

เธอกล่าวว่า “ฉันสามารถเปิดรูรับแสงกว้างเพื่อจับภาพพลังเคลื่อนไหวในห้องครัว และยังสามารถใช้รูรับแสงแคบได้อย่างเพียงพอต่อการจับภาพช่วงเวลาที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นด้วย เช่น การตกแต่งจานอาหาร”

สำหรับภาพถ่ายที่เน้นไปที่ส่วนผสม เลนส์ FE 90 มม. F2.8 Macro G OSS ของ Sony เป็นสิ่งที่ Gabby มักเลือกใช้ เนื่องจากมีความละเอียดอันน่าทึ่งโดยมีกำลังขยายสูงสุดแบบ 1:1 ทั้งยังให้ฉากหลังโบเก้อันนุ่มนวลและเอื้อให้ได้องค์ประกอบที่สมบูรณ์ทั้งภาพ สำหรับภาพขนมปังที่แสดงข้างต้นนั้น มีคุณภาพสูงมากจนคุณแทบจะนับเศษผงได้เกือบทั้งหมดที่กระจายอยู่กลางอากาศ

นอกจากนี้ Gabby ก็ได้ใช้ประโยชน์จากความเร็วแบบฟูลเฟรมที่น่าทึ่งของเลนส์ FE 55 มม. F1.8 ZA และ FE 50 มม. F1.4 ZA จาก Sony ด้วย เพื่อให้ได้ภาพถ่ายอาหารที่มีการเคลื่อนไหวอย่างแท้จริง ดังจะเห็นได้ในผลงานของเธอที่มีละอองเครื่องเทศและแป้งสาดกระเซ็นลงบนอาหารที่ถูกจับภาพไว้ เลนส์ทั้งสองตัวนี้มีโฟกัสที่แม่นยำพร้อมรูรับแสงกว้าง ทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีความคมและชัดเจนอย่างโดดเด่น

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าว

การถ่ายภาพอาหารแบบภาพนิ่งมักเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่เสมอ แต่เมื่อถ่ายภาพอาหารที่มีการเคลื่อนไหว Gabby จะทำให้ดูเหมือนว่าอาหารเหล่านั้นกำลังหลอมรวมผู้รับชมเข้าไปมีส่วนร่วมในการทำอาหารของใครสักคน

“ไม่มีช่วงเวลาใดที่เหมือนกัน และนั่นก็คือสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุด”

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของ Gabby Cantero ซึ่งไม่ได้เป็นการสะท้อนถึงความคิดเห็นหรือมุมมองของ Sony Singapore