ตะลอนเมือง: ถ่ายทอดทุกรายละเอียดอย่างมีชีวิตชีวาในการถ่ายวิดีโอชีวิตเมือง
Pinphong Niammanee ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Jao Filmmaker (@jaopinphong) นั้นชื่นชอบที่จะได้ถ่ายทอดรายละเอียดอย่างใกล้ชิดของตัวแบบให้เห็นกันอย่างชัดๆไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นขณะสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จักหรือดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างโดดเดี่ยวกลางพุ่มไม้ผลงานของเขาจะถ่ายทอดความอัศจรรย์ที่ซุกซ่อนไว้ออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวาทำให้ผู้ชมเกิดความอยากรู้และความหวั่นเกรง
สำหรับโปรเจกต์การถ่ายภาพบุคคลอย่างสร้างสรรค์ของJao นั้นเขาตัดสินใจเลือกธีม "นางแบบและเมือง" เพื่อนำเสนอเสน่ห์และความมั่นใจ "ไอเดียทั้งหมดในการถ่ายวิดีโอในครั้งนี้คือเพื่อถ่ายภาพพลังงานอันแข็งแกร่งแบบเพศชายจากฉากเมืองไปพร้อมๆกับพลังงานที่อ่อนโยนแบบเพศหญิงจากตัวนางแบบนี่จะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความคึกคักรุ่งเรืองและความมีคุณภาพ" เขากล่าวเราติดต่อJao เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเขาทำอย่างไรจึงนำองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้มาเทียบเคียงกันในผลงานของเขาได้
การจัดเฟรมเพื่อบรรยากาศที่ลงตัว
ก่อนถ่ายวิดีโอเขาจำเป็นต้องพิจารณาสถานที่ถ่ายทำที่มีบรรยากาศร่วมสมัยและทันสมัย "สำหรับโปรเจกต์ของผมผมเลือกเวลาสินธรวิลเลจในกรุงเทพฯเป็นฉากหลังครับเพราะมันเต็มไปด้วยองค์ประกอบของเมืองมากมายทั้งตึกระฟ้าหน้าต่างโชว์สินค้าและด้านหน้าของตัวอาคารที่มีรสนิยม" Jao กล่าว
เนื่องจากอารมณ์คือจุดโฟกัสในวิดีโอของเขาJao จึงตัดสินใจไม่ใช้อุปกรณ์ประกอบฉากในโปรเจกต์นี้ "ผมพบว่าการใช้อุปกรณ์ประกอบฉากจะดึงความสนใจของผู้ชมไปจากนางแบบช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเวลาที่ถ่ายหรือบันทึกไว้ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมยกตัวอย่างเช่นผมจะใช้ต้นไม้เพื่อสร้างโบเก้ฉากหลังที่สวยสง่าในขณะที่หลังคาจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์จัดเฟรมที่สมบูรณ์แบบซึ่งทำให้นางแบบอยู่ในโฟกัส" เขากล่าวเสริม
เสื้อผ้าสีเข้มๆยังช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้กับลุคโดยทำให้นางแบบสามารถนำเสนอความมีสไตล์และความหรูหราซึ่งสอดคล้องกับธีมชีวิตเมือง "แจ็กเกตของนางแบบยังช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้กับฉากหลังที่เป็นรูปทรงแข็งกระด้างได้อีกด้วยในขณะเดียวกันก็ยังช่วยถ่วงดุลกับพลังงานที่อ่อนโยนของนางแบบทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น" เขากล่าว
Alpha 7 IV คือกล้องที่Jao เลือกใช้เพราะช่วยให้เขาควบคุมการตั้งค่าสำหรับการถ่ายภาพได้ดังใจ "คุณสมบัติหนึ่งของกล้องที่ผมชอบคือPicture Profile แบบS-Log3 ซึ่งให้ภาพที่มีคุณภาพเป็นเลิศไม่ว่าจะถ่ายจากระยะไกลเพียงใดก็ตามแม้กระทั่งองค์ประกอบสำคัญอย่างส่วนเงาและส่วนสว่างก็จะไม่เบลอใช้คุณสมบัตินี้คู่กับโฟกัสอัตโนมัติและFocus Map เพื่อให้ตัวแบบที่เคลื่อนไหวยังคงมีความคมชัดเสมอ" เขากล่าว
ศิลปะในการปรับสมดุลแสง
ตลอดระยะเวลาที่ทำโปรเจกต์นี้ความท้าทายอย่างใหญ่หลวงที่สุดของJao คือการควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติ“แสงอาจเป็นได้ทั้งเพื่อนที่ดีที่สุดหรือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคุณแล้วแต่สภาพการณ์ครับแสงจะช่วยขับเน้นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่หากปริมาณแสงมากเกินไปก็อาจทำให้ผู้ชมโฟกัสไปที่ตัวแบบซึ่งเป็นจุดสนใจหลักได้ยากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวผมมักเช็คพยากรณ์อากาศเสมอเพื่อหาสภาวะที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ" เขากล่าว
ในบางครั้งJao จะทำการปรับสมดุลแสงสีขาวเองเพื่อที่จะได้เก็บทุกรายละเอียดบนใบหน้าของนางแบบเอาไว้อย่างครบถ้วน "ถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันและคุณจำเป็นต้องชดเชยความเข้มของแสงในระดับหนึ่งสมดุลแสงสีขาวนี่แหละครับตัวช่วยชีวิตเพราะมันจะนำอุณหภูมิของสีมาพิจารณาด้วยผลที่ได้คือจะไม่ทำให้เกิดสีเพี้ยนแบบไม่สมจริงและคุณยังสามารถสร้างโทนสีที่สดใสได้โดยไม่ทำให้โปรเจกต์ต้องล่าช้า" เขากล่าว
Jao ยังเลือกพรีเซ็ตFL ในCreative look ของกล้องเพื่อให้ภาพวิดีโอที่เหมือนภาพยนตร์ด้วย "การถ่ายทำด้วยโหมดFL ทำให้ได้แสงที่ดูมีเสน่ห์และเอฟเฟกต์เสียงที่เสริมภาพลักษณ์และความรู้สึกของตัวแบบซึ่งช่วยผมได้มากในขั้นตอนการตัดต่อครับในขณะเดียวกันยังทำให้ผมได้โทนสีที่เหมาะสมโดยไม่ต้องใช้วิธีการเกลี่ยสีด้วย" เขากล่าว
ในส่วนของการเก็บรายละเอียดJao เชื่อว่าช่างภาพทุกคนต้องมีลักษณะเฉพาะอยู่สองอย่างนั่นคือมีความอดทนสูงและความเต็มอกเต็มใจที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ "สำหรับใครที่กำลังจะลองถ่ายวิดีโอผมแนะนำว่าอย่าเร่งรีบเกินไปในการบันทึกภาพวิดีโอใช้เวลาสักหน่อยเพื่อวางแผนให้กับการเล่าเรื่องและต้องพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่เสมอแม้ว่าอะไรๆจะไม่เป็นไปอย่างที่คุณต้องการก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือเปลี่ยนมันให้เป็นตัวคุณและโลกของคุณเพื่อที่คุณจะสามารถดึงดูดผู้ชมได้ด้วยมุมมองที่สดใหม่และไม่เหมือนใคร"