เมื่อ Curt Morgan กำกับสารคดี “The Way Forward” ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง Alpha 7S III ใหม่ เขาในฐานะผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ต้องการให้สารคดีมีความสร้างสรรค์และความตื่นเต้น และสนับสนุนให้คุณกล้าเผชิญกับความกลัว เราได้พูดคุยกับ Morgan เพื่อขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังสารคดีและความสำคัญของการนำความคิดสร้างสรรค์มาทำให้รุดหน้าไปพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัยเช่นกัน

“พวกเราทุกคนต่างผ่านพ้นเดือนสุดหฤโหดมาด้วยกัน” Morgan อธิบาย “สำหรับวิดีโอนี้ เราอยากจะเน้นความโดดเด่นและให้เกียรติแก่ความคิดสร้างสรรค์ ผมคิดว่าการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์มีความสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมดในตอนนี้ และเป็นสิ่งที่เราต้องการใส่ลงไปในผลงานเพื่อแสดงให้เห็นว่าความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญเพียงใดต่อพวกเราทุกคนในเรื่องราวนี้ เราตั้งชื่อว่า “The Way Forward” เพราะว่าเราต้องการให้เรื่องราวเป็นไปในเชิงบวก และนั่นก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราเลือก”

ช่างภาพและนักถ่ายทำภาพยนตร์จำนวนมากต่างมองว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งเช่นเดียวกับการหายใจ และไม่ว่าจะมีความท้าทายและความกลัวที่ต้องเผชิญแค่ไหนก็ตาม Morgan คิดว่าการทลายทุกขีดจำกัดอย่างไม่ลดละเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะตอบโจทย์ความกระหายของนักถ่ายทำที่ต้องการบอกเล่าเรื่องราว และตอบโจทย์ความกระหายของผู้รับชมเมื่อได้ชม

“ผมคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดของการถ่ายทำภาพยนตร์ก็คือการเอาชนะความกลัว” Morgan กล่าว "ความกลัวเป็นสิ่งที่คุณต้องเผชิญในเบื้องหน้า หากคุณไม่กล้าเสี่ยงและออกแรงพยายามเพียงแค่เล็กน้อย คุณก็จบเห่และได้ผลงานในแบบเดิม ๆ และแน่นอนว่าคุณก็คงจะไม่พึงพอใจในผลงานของคุณได้อย่างแท้จริง ผมคิดว่าการกล้าเสี่ยงและการทำความคุ้นเคยกับความล้มเหลวมีความสำคัญต่อการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นอย่างมาก เมื่อคุณยอมรับได้ว่าความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง ความกลัวก็จะค่อย ๆ หายไป แล้วก็จะหยั่งรากลึกลงในใจของคุณเพื่อหล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์ให้เติบโต สำหรับสารคดีชิ้นนี้ ผมเริ่มจากการออกแบบเรื่องราวและรูปแบบการถ่ายทำ โดยไม่รู้เลยว่ากล้องจะสามารถให้ผลลัพธ์ออกมาตามภาพที่ผมวางไว้ได้จริงหรือเปล่า ซึ่งจะต้องอาศัยความไว้ใจอย่างแท้จริง และผมรู้ดีว่าเราจะต้องลองเสี่ยง"  

ในฐานะนักถ่ายทำภาพยนตร์ Morgan มีประสบการณ์ใช้งานเครื่องมือทุกประเภทในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยทั่วไปเขามักจะถ่ายทำสารคดีเช่นนี้ด้วยกล้องตัวใหญ่ที่ใช้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ แต่เขาก็ลองเสี่ยงเพื่อให้ได้ความสร้างสรรค์ เขาถ่ายทำวิดีโอทั้งหมดด้วยกล้อง Alpha 7S III ขนาดเล็ก

"ในหัวผมตอนนั้นขณะที่กำลังวางแผนทำสารคดีนี้" เขาอธิบาย "ผมจินตนาการไว้ว่าฉากสำคัญหลายฉากจะต้องมีการถ่ายทำในยามค่ำคืนหรือใกล้ค่ำ ผมก็เลยกังวลนิดหน่อย เพราะไม่รู้แน่นอนว่าเทคโนโลยีของกล้องจะช่วยส่งผมไปถึงภาพฝันนั้นหรือเปล่า ในที่สุดผมก็ได้กล้องมา แล้วก็ลองพกกล้องออกไปตามทางยามค่ำคืน ผมเปิดกล้องแล้วมองเห็นสุนัขป่าอยู่ด้านหน้าผมโดยที่ผมมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ภาพถ่ายชัดเจนและสีสันราวกับเป็นเวลากลางวัน สิ่งนี้จุดประกายให้ผมเล็กน้อย ผมจะต้องพกกล้องออกไปทดสอบถ่ายภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมก็เลยรีบออกไปยังทะเลทราย เพื่อจะดูว่ากล้องมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ผมเริ่มต้นด้วยการยกกล้องขึ้นถ่ายทางช้างเผือกโดยเปิดรูรับแสงไว้นาน 1 วินาที แล้วก็ได้ผลดี ผมแทบจะไม่เชื่อเลย การถ่ายภาพเช่นนี้ได้โดยปกติจะต้องเปิดรูรับแสงนาน 15-20 วินาทีและใช้ขาตั้งกล้อง หรือไม่ก็ใช้อุปกรณ์ช่วยมากกว่านั้น เวลานั้นผมรู้เลยว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากกล้องตัวนี้ได้อย่างมากมาย เราไม่มีความกลัวด้านเทคนิคของกล้องตัวนี้เลย เป็นกล้องที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากล้องตัวใหญ่ที่ใช้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์หลายตัวและสามารถทำงานได้ดีในสภาวะแสงน้อย ทั้งยังมีน้ำหนักเบาและทำงานได้อย่างรวดเร็ว ใช้ถ่ายทำได้เกือบทุกฉากตามที่จินตนาการไว้"

ไม่ใช่เพียงแค่ความสามารถที่น่าประทับใจของกล้อง Alpha 7S III ใหม่เท่านั้นที่ทำให้ Morgan ตื่นเต้นที่จะใช้ระบบ Sony

"สำหรับผมแล้ว การถ่ายทำโดยใช้กล้องของ Sony เป็นอะไรที่มากกว่าเทคโนโลยี แต่เป็นครอบครัว การเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและชุมชน Sony การได้รู้จักทีมและเห็นความหลงใหลมุ่งมั่นเบื้องหลังคนทำงานที่บริษัท ทำให้ผมยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีกที่จะได้ออกไปโลดแล่นและบอกเล่าเรื่องราว การพาตัวคุณเองมาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ดีและแบ่งปันประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนให้ทันเกม นั่นคือสิ่งที่มีความหมายสำหรับผม และนั่นคือหนทางก้าวไปข้างหน้า My Way Forward” 

บทความนี้ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกใน alphauniverse.com