การเลือกการ์ดหน่วยความจำที่เหมาะสมคือส่วนสำคัญในการดึงประสิทธิภาพสูงสุดของกล้องดิจิทัล Alpha ของคุณ ในอดีต สิ่งสำคัญเพียงอย่างเดียวคือการเปรียบเทียบระหว่างขนาดของหน่วยความจำกับราคา แต่เมื่อป้ายบนการ์ดเริ่มมีมากมายตั้งแต่ V90 ไปจนถึง SDXC, UHS-II และในปัจจุบันคือ CF Express Type-A ป้ายเหล่านั้นก็สร้างความสับสนได้บ่อยครั้ง

สำหรับการถ่ายวิดีโอ

คลาสความเร็วมีสามประเภท ได้แก่ "Speed Class (คลาสความเร็วแบบเดิม)," "UHS Speed Class (คลาสความเร็วแบบใหม่)" และ "Video Speed Class (คลาสความเร็วสำหรับวิดีโอ)" เมื่อมีการกำหนดประสิทธิภาพการเขียนขั้นต่ำ จึงมั่นใจได้ว่า Video Speed Class จะมีความเร็วคงที่ในระดับที่เหมาะกับการบันทึกวิดีโอ ซึ่งกรณีนี้จะรวมถึง V6, V10, V30, V60 และ V90 ด้วย สัญลักษณ์ของคลาสความเร็วเหล่านี้จะใช้กับการ์ดหน่วยความจำ SDHC, SDXC, UHS-I, UHS-II และ SD เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกชุดที่ดีที่สุดเพื่อการบันทึกที่น่าเชื่อถือได้

ขอแนะนำให้ใช้การ์ด V90 ที่มีความเร็วในการเขียนขั้นต่ำ 90Mb/s สำหรับการถ่ายวิดีโอ เมื่อถ่ายวิดีโอในระดับ 4K จะมีการเขียนข้อมูลในปริมาณมหาศาล ถ้าวิดีโอที่คุณถ่ายไว้เล่นได้ไม่ราบรื่นและการเปลี่ยนเฟรมไม่สม่ำเสมอ นั่นคือสัญญาณที่แสดงว่าการ์ดของคุณไม่เหมาะสม ควรเลือกใช้การ์ด V90 รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อให้ภาพเล่นได้ไม่สะดุดและอารมณ์ก็ไม่สะดุด

ความจุสำคัญมากกับวิดีโอ

ถ้าคุณถ่ายเพียงแค่ JPEG ในกรณีนี้ความจุ 64GB ก็เพียงพอแล้ว สำหรับกล้อง Alpha 7C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล หมายความว่าสามารถถ่ายภาพได้มากกว่า 8,000 ภาพ ถ้าคุณถ่ายภาพ JPEG + RAW นั่นจะหมายถึงภาพหลายพันภาพ ซึ่งยังคงเป็นจำนวนที่มากสำหรับการถ่ายภาพโดยทั่วไป พึงทราบว่าความละเอียดหลายล้านพิกเซลที่กล้องของคุณมีอยู่และการตั้งค่าคุณภาพที่คุณเลือกจะส่งผลต่อตัวเลขสุดท้ายนี้

ถ้าเป็นวิดีโอจะยิ่งซับซ้อนขึ้น เมื่อถ่ายทำที่ระดับ 4K โดยใช้การ์ดและกล้องตัวเดียวกัน คุณจะได้ฟุตเทจยาว 90 นาที ซึ่งไม่มากเลยถ้าคุณตั้งใจจะถ่ายภาพด้วย ตัวเลขนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะถ่ายอะไรและถ่ายอย่างไร ถ้าคุณเป็นช่างภาพวิดีโอเชิงพาณิชย์ คุณจะต้องการใช้ทุกกิกที่คุณสามารถดึงมาใช้ได้ รวมถึงส่วนที่เก็บไว้เป็นข้อมูลสำรองด้วย แม้ว่าคุณจะไม่ใช่สปีลเบิร์กคนถัดไป คุณยังคงต้องใช้การ์ดอย่างน้อย 128GB และมากกว่าหนึ่งชุดอยู่ดี

สำหรับการถ่ายภาพ

การ์ด SD ไม่ได้สำคัญเฉพาะในระหว่างการถ่ายภาพเท่านั้น แต่มันสามารถลดหรือเพิ่มเวลาในขั้นตอนการทำงานของคุณได้ด้วย การส่งข้อมูลในระดับหลายกิกะไบต์จากกล้องไปยังคอมพิวเตอร์อาจต้องใช้เวลานานมาก การนำเข้าภาพในหลักกิกะไบต์จากการ์ด SD มาตรฐานซึ่งปกติจะใช้เวลาหลายนาทีอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเมื่อเป็นการ์ด SDXC UHS-II V90 ขอแนะนำให้ใช้ตัวอ่านการ์ดแบบเร็ว USB 3.2 Gen 2 เพราะอาจเป็นคอขวดของการ์ดที่มีความเร็วสูงสุดได้

• การ์ดหน่วยความจำ SF-M Series UHS-II SD
• การ์ดหน่วยความจำ SF-E Series UHS-II SD

ตรวจสอบกล้องของคุณเป็นอันดับแรก

เมื่อซื้อกล้องเป็นครั้งแรก คุณอาจถูกหลอกให้รู้สึกปลอดภัยเมื่อเห็นว่ากล้องให้การ์ด SD มาด้วย บ่อยครั้งที่การ์ด SD ของบริษัทอื่นที่ให้มาด้วยจะมีคุณสมบัติขั้นต่ำไม่ถึงระดับที่จะทำให้ใช้งานกล้อง Alpha ของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณอาจไม่สังเกตเห็นถึงปัญหานี้ตั้งแต่ต้น แต่เมื่อใดที่คุณเริ่มถ่ายด้วยอัตราเฟรมเกิน 10fps ขึ้นไป หรือวิดีโอ 4K30P ที่มีความยาวเป็นชั่วโมง ทุกอย่างจะเริ่มติดขัดทันที ควรตรวจสอบข้อมูลจำเพาะของกล้องและเลือกใช้การ์ดที่เหมาะสม

การ์ด TOUGH สำหรับสภาพการทำงานที่หนักหน่วง

เมื่อต้องการประสิทธิภาพภายในเสี้ยววินาที ความทนทานคือปัจจัยสำคัญทุกครั้งที่คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ไม่ว่าจะโดนคุณทำตกโดยไม่ตั้งใจ โดนน้ำ หรือต้องอยู่ในที่ที่อากาศหนาวเย็น การ์ดเหล่านี้ก็พร้อมทำงานเสมอ ด้วยตัวเรือนที่ทำจากเรซินที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ พร้อมด้วยมาตรฐานการกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP57 ขอแนะนำให้เลือกใช้การ์ดเหล่านี้หากคุณต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่กล่าวไปข้างต้น

• การ์ดหน่วยความจำ SF-G series TOUGH specification
• การ์ด SF-M series TOUGH specification UHS-II SD
• การ์ดหน่วยความจำ CEA-G Series CFexpress Type A

เหนือกว่า SD คือ CF Express Type A

ถ้าคุณมองหาการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุดที่เร็วที่สุดในตลาด ตัวเลือกหนึ่งเดียวที่ต้องคว้าไว้คือการ์ดหน่วยความจำ CF Express Type A คุณจะพบการ์ดเหล่านี้ได้ในกล้อง Alpha รุ่นใหม่บางรุ่น เช่น α7S III ที่ใช้รูปแบบใหม่ ตัวการ์ดมีความเร็วสูงเป็นพิเศษถึง 700MB/s หรือประมาณสองเท่าของ SDXC ตัวหลัก โดยมีขนาดกะทัดรัดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังทนทานระดับมืออาชีพจนคุณใช้งานได้อย่างสบายใจ

ท้ายที่สุดแล้ว เราขอแนะนำให้คุณค้นหารูปแบบการใช้งานของตัวคุณเอง ถ้าคุณเคยใช้กล้องดิจิทัลมาก่อนและรู้ถึงขนาดที่ต้องการอยู่แล้ว ที่เหลือก็แค่สรุปผลด้วยการหาข้อแตกต่างในระดับล้านพิกเซลเป็นอย่างแรก จากนั้นคุณจะสามารถเพ่งความสนใจไปที่การถ่ายภาพด้วยการ์ดฟรีที่ได้มาหรือการ์ดที่มีเก็บไว้อยู่แล้วซึ่งมีข้อมูลจำเพาะขั้นต่ำตรงตามที่ต้องการ ก่อนจะลงทุนไปกับการ์ด SD ที่อีกไม่นานจะเพิ่มมากขึ้นจนเต็มกำมือ