การถ่ายภาพกีฬาเป็นการถ่ายภาพประเภทหนึ่งที่มีเสน่ห์ โดยถ่ายทอดความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจจากการชมการแข่งขันกีฬา ภาพถ่ายกีฬาที่สมบูรณ์แบบจะจับภาพคลื่นอารมณ์แห่งชัยชนะและความปราชัย หรือความทรหดอดทนในดวงตาของนักกีฬาไว้ได้ แต่ก็เหมือนกับกิจกรรมอื่นๆ ทุกกิจกรรมในช่วงสองปีที่ผ่านมา กีฬาต้องเผชิญความไม่แน่นอน ส่งผลให้ช่างภาพกีฬาต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บภาพถ่ายกีฬาและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของตน 

บิลลี่ ไต้ ช่างภาพกีฬาในไต้หวันก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อโลกกีฬาเปลี่ยนไป เขาจึงต้องคิดนอกกรอบ 

“การถ่ายภาพนักกีฬาในสนามเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพกีฬา แต่เนื่องจากในปี 2020 และ 2021 มีการแข่งขันกีฬาน้อยลง ผมจึงเริ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการเชื่อมโยงเชิงสัญลักษณ์ระหว่างสนามกีฬากับบริเวณขอบสนาม และนั่นก็เหมือนกับโลกใบเล็กของโรคระบาด” บิลลี่กล่าว “ซึ่งประกอบด้วยนักกีฬาที่สวมหน้ากากอนามัยบนม้านั่ง สนามกีฬาที่ไร้ผู้ชม อัฒจันทร์ที่มีผู้ชมนั่งห่างจากกัน หรือมาตรการต่างๆ ที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาด ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นภาพที่สามารถจับช่วงเวลาร่วมกันของโลกที่ดีที่สุดช่วงหนึ่ง” 

ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา เขาได้รับการผลักดันให้ลองทำโครงการต่างๆ เพื่อให้ตัวเองยังคงมีไฟในการทำงาน ในตอนนั้นเขามองเข้าไปในบ้านด้วยมุมมองใหม่และบันทึกภาพภรรยาที่ตั้งครรภ์กับลูกอ่อน 

ในหลายกรณี การรักษาไฟทำงานให้คุกรุ่นตลอดเวลายังหมายถึงการทำตัวให้มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา และนี่คือบทเรียนบางส่วนที่ถอดมาจากการสนทนาระหว่างเรากับบิลลี่ ไต้ ถึงวิธีคั้นไอเดียออกมาตลอดเวลาท่ามกลางความทุกข์ยากลำบาก 

1. ค้นหาแรงบันดาลใจ

แรงบันดาลใจคือก้าวแรกของการทำตัวให้มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา คอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายคนได้รับแรงบันดาลใจจากครีเอเตอร์คนอื่นๆ ที่พวกเขาชื่นชม และอีกหลายคนก็ได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งมหัศจรรย์ที่พวกเขามองเห็นรอบตัว สำหรับบิลลี่ แรงบันดาลใจในการเข้าสู่วงการความคิดสร้างสรรค์ใหม่มาจากบ้านของเขาเอง 

ในเดือนเมษายน-มิถุนายน ปี 2021 องค์กรในไต้หวันส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนมาทำงานทางไกล ในขณะนั้นภรรยาของเขาตั้งท้องลูกคนที่สอง เขาจึงต้องอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับภรรยาและลูกในท้อง เมื่อไม่มีอะไรทำ เขาจึงหยิบกล้องขึ้นมาอีกครั้งเพื่อบันทึกภาพการตั้งครรภ์ของภรรยาและเจ้าตัวน้อยของเขา 

2. ทดลองใช้วิธีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ

หากคุณรู้สึกว่ายังไม่ลงตัวหรือยังไม่พอใจ คุณอาจจะต้องค้นหาวิธีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ อย่างเช่น การทดลองถ่ายภาพแนวใหม่ หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ใหม่ๆ 

ตัวอย่างเช่น โครงการบันทึกภาพครอบครัวของบิลลี่มีทั้งที่เป็นภาพถ่ายและวิดีโอ แม้ว่าการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่บิลลี่ยอมรับว่าเขายังต้องเรียนรู้อีกมาก เขาอยากจะศึกษาทักษะด้านนี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น จนสามารถบันทึกภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมได้ ในการฝึกฝน เขาเลือกถ่ายวิดีโอครอบครัวมากขึ้นแทนการถ่ายภาพธรรมดา การเปลี่ยนมาใช้งานวิดีโอบ่อยขึ้นสร้างแรงจูงใจให้เขาเดินตามเส้นทางนี้ และท้ายที่สุดได้เรียนรู้สิ่งที่ควรและไม่ควรทำในการบันทึกภาพด้วยกล้องฟิล์ม 

3. ขยายขอบเขตการเก็บภาพ

ก่อนจะมีการล็อกดาวน์ บิลลี่ได้ริเริ่มโครงการที่มีชื่อว่า “ผู้หญิงในวงการกีฬา” ไว้แล้ว ซึ่งเขาทำในเวลาว่างนอกเวลางาน แนวคิดเริ่มแรกคือพุ่งความสนใจไปที่นักกีฬาหญิง แต่ไม่นานเขาก็ตระหนักว่าวงการนี้มีมากกว่าแค่นักกีฬา เขาจึงขยายขอบเขตให้ครอบคลุมผู้หญิงจากพื้นที่อื่นๆ ของวงการกีฬาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สืบเนื่องมาจากการหยุดการแข่งขัน 

“หัวข้อก็คือผู้หญิงรอบตัวผมที่อยู่ในวงการกีฬา ซึ่งมีทั้งนักกีฬา เด็กเก็บบอล นักข่าว นักการตลาด หรือใครก็ตามที่อยู่ในแวดวงกีฬา แต่เนื่องจากไม่มีการแข่งขัน จึงไม่มีภาพของผู้หญิงข้างขอบสนาม” บิลลี่อธิบาย “ผมจึงร่วมมือกับพวกเธอด้วยการทำให้ผู้หญิงเป็นหัวข้อในการถ่ายภาพบุคคลแทน โครงการนี้ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องและตั้งเป้าเน้นไปที่กิจวัตรประจำวันของพวกเธอในระดับหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบที่น่าสนใจและแตกต่างจากการทำงานในวงการกีฬาของพวกเธอ” 

4. นึกถึงเป้าหมาย

ทำไมคุณถึงอยากมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา แล้วคุณมีจุดมุ่งหมายอะไร เราได้เรียนรู้จากบิลลี่ว่าการใช้เป้าหมายเป็นแรงกระตุ้นให้คุณก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน สำหรับบิลลี่ เป้าหมายในการเข้าร่วมมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติที่สำคัญคือสิ่งที่ทำให้เขาก้าวไปข้างหน้า 

“ในฐานะช่างภาพกีฬา ผมตั้งเป้าที่จะเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ ณ ตอนนี้ ผมอยากจะเข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หางโจว และกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เฉิงตู แม้จะพบความยุ่งยากในการกักกันและการตรวจสอบความปลอดภัยในการแข่งขันต่างๆ แต่กล้อง Sony ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาจะช่วยลดภาระของช่างภาพที่ต้องเคลื่อนย้ายจากสนามหนึ่งไปยังอีกสนามหนึ่งได้ ซึ่งจะช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับเฝ้าดูการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น” 

บิลลี่เชื่อว่าความท้าทายมีไว้ก็เพื่อให้เราก้าวไปข้างหน้า และเขาเชื่อว่าหลังการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ การบันทึกภาพของช่างภาพจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬาหรือเรื่องอื่นๆ ที่มีความหมายต่อชุมชนของเรา 

“งานของช่างภาพคือบันทึกสิ่งที่เขาหรือเธอเห็นรอบๆ ตัว ยิ่งเจอสถานการณ์ท้าทายมากเท่าไร เรายิ่งต้องหยิบกล้องขึ้นมาจับภาพช่วงเวลานั้นมากขึ้นเท่านั้น บางทีวันหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นอีกหลายสิบปีต่อจากนี้ ภาพต่างๆ อย่างภาพกลุ่มผู้ชมสวมหน้ากากอนามัยอาจถูกมองว่าเป็นคำจำกัดความของช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ก็เป็นได้” บิลลี่กล่าวทิ้งท้าย