•  เซนเซอร์ภาพฟูลเฟรม Stacked Exmor RS™ CMOS ใหม่ขนาด 50.1 เมกะพิกเซล (โดยประมาณในระดับที่มีประสิทธิภาพ) ที่ผสานรวมการทำงานกับกลไกการประมวลผลภาพ BIONZ XR™ ที่อัปเกรดใหม่และมอบพลังการประมวลผลมากขึ้น 8 เท่า1

•  ถ่ายภาพต่อเนื่องโดยไม่มีอาการภาพล้มได้สูงสุดถึง 30 เฟรมต่อวินาที2

•  การเรียกข้อมูลจากเซนเซอร์ได้อย่างรวดเร็วทำให้ถ่ายภาพในโหมด AF/AE ได้สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที3 ซึ่งมีความเร็วกว่ากล้อง Alpha 9 II เป็นสองเท่าแม้อยู่ในโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่อง 30 เฟรมต่อวินาที 

•  ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED Quad-XGA ที่สว่างและมีขนาดใหญ่ 0.64 นิ้ว ความละเอียด 9.44 ล้านจุด (โดยประมาณ) พร้อมอัตราการรีเฟรช 240 เฟรมต่อวินาที4 ครั้งแรกของโลก

•  ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่เงียบเชียบไม่สั่นสะเทือน 

•  การถ่ายภาพที่ไม่มีการสั่นสะเทือน5 ครั้งแรกของโลกโดยมีทั้งชัตเตอร์แบบกลไกและแบบอิเล็กทรอนิกส์

•  การซิงค์แฟลชกับชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์6 สูงสุด 1/200 วินาที ครั้งแรกในกล้องรุ่น Alpha™

•  การซิงค์แฟลชกับชัตเตอร์แบบกลไก5 สูงสุด 1/400 วินาที ครั้งแรกของโลก

•  นอกเหนือจากความสามารถในการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 120p7 10 บิต 4:2:2 ที่มีอยู่แล้ว ยังสามารถเลือกการบันทึกวิดีโอความละเอียด 8K 30p8 10 บิต 4:2:0 XAVC HS ที่ถ่ายฟุตเทจได้ความละเอียด 8.6K เพื่อให้ได้รายละเอียดและความละเอียดที่เหนือชั้นขั้นสุด

•  ช่วงการรับแสงกว้าง 15 สต็อปสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง9 และมากกว่า 15 สต็อปสำหรับการถ่ายวิดีโอ10

•  ระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ที่ปรับปรุงให้จับโฟกัสดวงตามนุษย์และสัตว์ได้ดีขึ้น และระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ใหม่สำหรับจับโฟกัสดวงตานก11 รวมไปถึงระบบโฟกัสแบบเรียลไทม์ที่คงการจับโฟกัสต่อเนื่องได้อย่างแม่นยำโดยอัตโนมัติ

•  ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนโดยใช้แสงภายในตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์12เมื่อต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ 5.5 ขั้น

•  มีเมทริกซ์สี S-Cinetone ที่เห็นในกล้องรุ่น FX9 และ FX6 เพื่อให้ได้การถ่ายทำราวฉากในภาพยนตร์ที่น่าประทับใจ

•  รองรับขั้นตอนการทำงานแบบมืออาชีพด้วย Wi-Fi ในตัวกล้อง13 ที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม, SuperSpeed USB 10Gbps, 1000BASE-T Ethernet และอื่นๆ

(ASIA PACIFIC, 26 มกราคม 2021) – Sony Electronics ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเซนเซอร์ภาพและการถ่ายภาพดิจิทัล ประกาศเปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด กล้อง Alpha 1 เพื่อยืนยันปณิธานในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่ผสานรวมคุณสมบัติใหม่ๆ สุดล้ำที่จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง  

กล้องนวัตกรรมขั้นสูงสุดล้ำที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีมากที่สุดเท่าที่ Sony เคยเปิดตัวมาอย่างกล้อง Alpha 1 ผสานรวมความละเอียดขั้นสูงและประสิทธิภาพความเร็วสูงที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในโลกแห่งกล้องดิจิทัล ด้วยเซนเซอร์ภาพ Stacked Exmor RS™ ฟูลเฟรม 50.1 เมกะพิกเซลใหม่ล่าสุด การทำงานโหมด AF/AE สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที การถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K 30p 10 บิต 4:2:0 และอื่นๆ อีกมากมาย กล้อง Alpha 1 จะช่วยให้นักสร้างสรรค์ผลงานสามารถจับภาพในแบบที่อาจไม่เคยทำได้มาก่อน 

"“เรารับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าของเราเสมอ และเราท้าทายวงการอุตสาหกรรมโดยการนำนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเกินกว่าผู้คนคาดหวังออกสู่ตลาด” Ryo Ochi ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการถ่ายภาพดิจิทัลจาก Sony Electronics Asia Pacific กล่าว “กล้อง Alpha 1 ทลายทุกขีดจำกัดที่มีอยู่ สร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่ให้เหล่านักสร้างสรรค์สามารถบรรลุได้เพียงใช้กล้องตัวเดียว สิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นที่สุดมากกว่าฟีเจอร์ที่ครบถ้วนครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ก็คือ ความสามารถของกล้อง Alpha 1 ที่จับภาพในแบบที่คุณยังไม่เคยทำได้มาก่อน กล้องตัวนี้เผยโลกแห่งความเป็นไปได้สุดสร้างสรรค์ใหม่ๆ จึงทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อนเป็นไปได้จริงเสียที”

เซนเซอร์ภาพที่พัฒนาแบบใหม่ มีหน่วยความจำที่สมบูรณ์แบบและจับคู่ทำงานกับกลไกการประมวลผลภาพ BIONZ XR ที่อัปเกรดใหม่ ทำให้สามารถถ่ายภาพ 50.1 เมกะพิกเซลได้ต่อเนื่องอย่างน่าทึ่งถึง 30 เฟรมต่อวินาที โดยถ่ายในโหมด AF/AE ได้สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที ศักยภาพการถ่ายภาพของกล้อง Alpha 1 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมโดยมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED Quad-XGA ความละเอียด 9.44 ล้านจุด พร้อมอัตราการรีเฟรชสูงสุด 240 เฟรมต่อวินาที14 ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดอาการภาพล้ม นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K 30p 10 บิต 4:2:0 ซึ่งทำได้เป็นครั้งแรกในกล้องรุ่น Alpha และกล้อง Alpha 1 ยังสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K 120p / 60p 10 บิต 4:2:2 โดยมีสี S-Cinetone กล้อง Alpha 1 อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่รองรับการใช้งานของช่างภาพภาคสนามโดยมีขั้นตอนการทำงานที่เร็วขึ้น รวมถึงความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ทาง FTP แบบไร้สายได้เร็วขึ้น 3.5 เท่า15 และอื่นๆ อีกมากมาย

การถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที

กล้อง Alpha 1 จับภาพช่วงเวลาที่อาจจะพลาดไปได้หากไม่มีประสิทธิภาพความเร็วสูง ช่างภาพจึงถ่ายภาพตัวแบบที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วได้ตามต้องการ การอ่านค่าความเร็วสูงทำได้เยี่ยมด้วยเซนเซอร์ภาพ 50.1 เมกะพิกเซลและหน่วยความจำสำหรับพักข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้ถ่ายภาพได้สูงสุด 155 ภาพฟูลเฟรมไฟล์ RAW ที่มีการบีบอัด16 หรือ 165 ภาพฟูลเฟรมไฟล์ JPEG17 สูงสุดที่ 30 เฟรมต่อวินาที โดยใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพระบบโฟกัสอัตโนมัติและระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ18 

เมื่อถ่ายภาพด้วยระบบ AF/AE ที่ความเร็วอันน่าทึ่งสูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที กล้อง Alpha 1 ก็ยังคงรักษาโฟกัสที่มีความแม่นยำสูงไว้ได้แม้ต้องถ่ายภาพตัวแบบที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว กล้องสามารถปรับการรับแสงได้โดยอัตโนมัติแม้มีการเปลี่ยนความสว่างกะทันหัน และความหน่วงในการตอบสนองของระบบ AE ก็อยู่ที่ 0.033 วินาที2เพียงเท่านั้น
 

ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่มีอัตราการรีเฟรช 240 เฟรมต่อวินาที4 ครั้งแรกของโลก

นอกจากความสามารถของกล้องในการถ่ายภาพที่ความเร็วน่าเหลือเชื่อแล้ว กล้อง Alpha 1 ยังสมบูรณ์พร้อมด้วยช่องมองภาพที่มี4อัตราการรีเฟรช 240 เฟรมต่อวินาที14เป็นตัวแรกของโลก เพื่อการมองภาพที่ราบรื่นขั้นสุด ช่องมองภาพจะไม่ดับมืดเมื่อเปิดค่าการรับแสง จึงเห็นภาพได้อย่างไม่สะดุด ทั้งยังช่วยให้สามารถวางเฟรมภาพและโฟกัสภาพได้อย่างราบรื่นแม้ในระหว่างการถ่ายภาพต่อเนื่อง หน้าจอ OLED ความละเอียดสูง Quad-XGA 0.64 นิ้ว ความละเอียด 9.44 ล้านจุด (โดยประมาณ) และชิ้นกระจกที่ประณีต เพื่อให้คุณได้ความละเอียดสูงสุด4 ทั้งยังสามารถขยายช่องมองภาพได้19 0.90 เท่า มุมมองภาพ FOV แบบแนวทแยง 41 องศาและจุดมองภาพความสูง 25 มม. เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน จึงให้การมองภาพที่บิดเบือนน้อยที่สุดในทุกมุม 
 

ระบบโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูง

Sony ดำเนินการขยายขอบเขตเทคโนโลยีการโฟกัสต่อเนื่องอัตโนมัติโดยการเปิดตัวกล้อง Alpha 1 ซึ่งสามารถตามจับโฟกัสตัวแบบที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและซับซ้อนได้อย่างง่ายๆ และมีความแม่นยำสูง กล้องมีระยะโฟกัส 759 จุดในระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ที่มีระยะจับโฟกัสหนาแน่นสูงในแนวราบ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภาพประมาณ 92% ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำและไม่พลาดในสภาพแวดล้อมใดก็ตามที่การจับโฟกัสอาจเป็นเรื่องยาก 

ระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ขั้นสูงของ Sony พัฒนาประสิทธิภาพการจับโฟกัสให้สูงขึ้นได้ถึง 30% จากระบบรุ่นก่อนหน้า1 เนื่องจากมีกลไกการประมวลผลภาพที่ทรงพลังอย่าง BIONZ XR จึงช่วยให้มั่นใจว่าจะสามารถจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำและเสถียร แม้ว่าใบหน้าของตัวแบบจะหันไปทางอื่นก็ตาม นอกจากระบบโฟกัสดวงตาอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อจับโฟกัสดวงตามนุษย์และสัตว์แล้ว กล้อง Alpha 1 ยังใช้เทคโนโลยีการจดจำตัวแบบระดับสูงเพื่อจับโฟกัสดวงตาของนกโดยอัตโนมัติในแบบเรียลไทม์6 ซึ่งเป็นนวัตกรรมสุดล้ำครั้งแรกในกล้องรุ่น Alpha ส่วนอัลกอริทึมที่ปรับประสิทธิภาพดีขึ้นก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการจับโฟกัสจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องแม้ว่าเจ้านกที่กำลังเกาะนิ่งอยู่จะโผบินไปกะทันหัน หรือต้องเปลี่ยนการวางเฟรมภาพในทันทีก็ตาม20 

นอกจากนี้กล้อง Alpha 1 ยังมีระบบโฟกัสแบบเรียลไทม์ที่ใช้ AI จับโฟกัสต่อเนื่องได้อย่างแม่นยำโดยอัตโนมัติ อัลกอริทึมจดจำตัวแบบใช้ข้อมูลสี รูปแบบ (ความสว่าง) และระยะห่างของตัวแบบ (ความลึก) เพื่อให้ประมวลผลข้อมูลตามพิกัดได้ด้วยความเร็วสูงแบบเรียลไทม์ 
 

ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่เงียบเชียบไม่สั่นสะเทือน

การเรียกข้อมูลความเร็วสูงจากเซนเซอร์ภาพรุ่นใหม่ช่วยลดอาการภาพล้มขณะถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุดถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับกล้อง Alpha 9 II ทั้งยังให้การถ่ายภาพอัตโนมัติที่เงียบเชียบไม่สั่นไหวด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่เหนือชั้นเป็นครั้งแรกของโลก5 ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์21ทำงานได้อย่างเงียบเชียบ ไม่มีเสียงกลไกรบกวน และไม่สั่นสะเทือน จึงสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างไร้กังวลในสภาวะแสงน้อยที่แสนท้าทาย แม้จะใช้แสงไฟหรือแสงเสริมที่มีการกะพริบไหว นับเป็นครั้งแรกของกล้อง Alpha ที่สามารถซิงค์แฟลชกับชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเร็วสูงสุด 1/200 วินาทีได้6 ในที่สุดข้อดีของชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ก็ปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแล้วในขณะนี้ แม้ในเวลาที่ต้องใช้งานร่วมกับแฟลชเพื่อให้ได้ความอเนกประสงค์ในการถ่ายภาพที่หลากหลายก็ตาม
 

ระบบชัตเตอร์ขับเคลื่อนแบบคู่สำหรับการซิงค์แฟลช 1/400 วินาที

กล้อง Alpha 1 มีความเร็วชัตเตอร์สูงที่ซิงค์กับแสงแฟลชได้เร็วที่สุดในโลก5 1/400 วินาที ทำให้การจับภาพตัวแบบที่กำลังเคลื่อนไหวเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น นอกจากจะมีม่านชัตเตอร์ที่มีเส้นใยคาร์บอนแล้ว กล้อง Alpha 1 ยังมีระบบชัตเตอร์ที่ขับเคลื่อนแบบคู่ที่พัฒนาใหม่ล่าสุด ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากสปริงและตัวกระตุ้นที่ขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า จึงให้ความทนทานสูงและลงน้ำหนักได้อย่างเบามือไปพร้อมกัน
 

การเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพความละเอียดสูง

กล้อง Alpha 1 มีเซนเซอร์ที่มีจำนวนพิกเซลสูง มีความไวแสงสูงและจุดรบกวนต่ำ ทั้งยังมีช่วงรับแสงกว้างมากกว่า 15 สต็อปสำหรับถ่ายวิดีโอและ 15 สต็อปสำหรับถ่ายภาพนิ่ง เพื่อให้ได้รูปถ่ายที่นุ่มนวลและมีการไล่ระดับสีที่เป็นธรรมชาติตั้งแต่เงาไปจนถึงแสง ซึ่งสามารถทำได้เนื่องจากมีระบบการประมวลผลสุดทันสมัยภายในกล้อง และมีช่วงความไวแสง ISO กว้าง 100-32,000 (ขยายได้อีกเป็น

การถ่ายทำภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ 8K

กล้อง Alpha 1 มีคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในกล้องรุ่น Alpha โดยให้การถ่ายทำวิดีโอความละเอียด 8K 30p 10 บิต 4:2:0 XAVC HS และสามารถถ่ายฟุตเทจได้ความละเอียด 8.6K เพื่อให้ได้รายละเอียดที่เหนือชั้นขั้นสุด ผสานการทำงานด้วยเทคโนโลยีการโฟกัสอัตโนมัติที่ขึ้นชื่อของ Sony รวมทั้งประสิทธิภาพการไล่ระดับสีและการผลิตซ้ำสี กล้อง Alpha 1 จึงช่วยให้ผู้ใช้เห็นวิสัยทัศน์การสร้างสรรค์ของตนชัดเจนขึ้นโดยมีรายละเอียดที่ประณีตที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟุตเทจความละเอียด 8K มาตัดต่อเป็นความละเอียด 4K ได้อย่างยืดหยุ่นในขั้นตอนหลังการผลิตได้ด้วย 

รองรับรูปแบบวิดีโอที่หลากหลายสำหรับมืออาชีพ

กล้อง Alpha 1 มอบประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K โดยบันทึกภายในกล้องได้สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที7 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชันได้ช้าสูงสุดถึง 5 เท่า22 นอกจากจะรองรับการถ่ายวิดีโอ 10 บิต 4:2:2 แล้ว คุณสมบัตินี้ยังใช้กับการบีบอัดแบบ Long GOP Inter-Frame ที่มีประสิทธิภาพหรือการบีบอัดแบบ Intra (All-I) Intra-Frame คุณภาพสูงได้ด้วย 

กล้อง Alpha 1 มีเทคโนโลยี S-Cinetone ซึ่งเป็นเมทริกซ์สีเช่นเดียวกับในกล้อง FX9 และ FX6 ที่ให้สีและโทนสีผิวเป็นธรรมชาติสูง ให้โทนสีกลางที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังให้สีสันที่นุ่มนวลและแสงที่สว่างสวยเพื่อตอบสนองความต้องการที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในการให้ภาพมีความลึกน่าประทับใจยิ่งขึ้น เส้นกราฟแกมม่า S-Log3 ทำให้ได้ช่วงการรับแสงมากกว่า 15 สต็อป ในขณะที่การตั้งค่าขอบเขตสี S-Gamut3 และ S-Gamut3.Cine ทำให้สามารถจับคู่ใช้งานฟุตเทจของกล้อง Alpha 1 กับวิดีโอที่ถ่ายด้วยกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ VENICE, FX9 และกล้องถ่ายทำภาพยนตร์มืออาชีพอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย 

โครงสร้างการกระจายความร้อน

โครงสร้างการกระจายความร้อนที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยคงระดับอุณหภูมิของเซนเซอร์ภาพและกลไกการประมวลผลภาพให้อยู่ในช่วงการทำงานปกติ ป้องกันความร้อนเกินขีดจำกัดโดยที่ขนาดตัวกล้องยังคงมีความกะทัดรัด ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K/30p ได้อย่างต่อเนื่องประมาณ 30 นาที23

รองรับการยกกล้องขึ้นถ่าย

ตัวป้องกันการสั่นไหวและไจโรเซนเซอร์ความแม่นยำสูง บวกกับอัลกอริทึมระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ปรับปรุงดีขึ้น ทำให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 5.5 ขั้น เพิ่มความละเอียดรูปถ่ายให้มีคุณภาพสูงสุดจากเซนเซอร์ 50.1 เมกะพิกเซลของกล้อง กล้อง Alpha 1 ได้ และยังมีโหมด Active24 ซึ่งให้การป้องกันการสั่นไหวที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยกถ่ายวิดีโอโดยไม่ใช้ขาตั้ง เมื่อใช้แอปพลิเคชันสำหรับเดสก์ท็อปของ Sony อย่าง Catalyst Browse หรือ Catalyst Prepare25 สำหรับขั้นตอนหลังการผลิต จะมีฟังก์ชันป้องกันภาพสั่นไหวที่แม่นยำให้ใช้งานด้วย โดยจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเมตะดาตาที่สร้างโดยไจโรเซนเซอร์ที่อยู่ในตัวกล้อง

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่มีในกล้อง Alpha 1 ได้แก่ การถ่ายโอนผลลัพธ์ไฟล์ RAW 16 บิต26 ไปยังเครื่องบันทึกภายนอก27ที่เชื่อมต่อผ่าน HDMI เพื่อความยืดหยุ่นสูงสุดในขั้นตอนหลังการผลิต มีการเพิ่มอินเทอร์เฟซเสียงดิจิทัลลงในช่องเชื่อมต่อมัลติอินเทอร์เฟซ (MI) ของกล้องเพื่อให้บันทึกเสียงได้ชัดเจนขึ้นโดยใช้ไมโครโฟนภายนอกของ Sony ที่ใช้งานร่วมกันได้ การเรียกข้อมูลฟุตเทจที่มีจำนวนพิกเซลแบบเต็มสมบูรณ์ 5.8K โดยไม่ใช้เทคนิคการรวมพิกเซลเพื่อให้ได้วิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ในโหมด Super 35mm และอื่นๆ อีกมากมาย

กล้อง Alpha 1 ได้รับการออกแบบและกำหนดค่ามาให้รองรับการใช้งานของนักถ่ายภาพและวิดีโอทางวารสารศาสตร์และช่างภาพกีฬาที่ต้องส่งภาพนิ่งหรือวิดีโอที่ถ่ายได้ให้รวดเร็วที่สุด โดยมีการเชื่อมต่อขั้นสูงให้เลือก กล้องตัวนี้มีฟีเจอร์มากมายสำหรับการถ่ายโอนไฟล์ที่รวดเร็วและวางใจได้13 ระบบ LAN ไร้สายภายในกล้องช่วยให้สื่อสารได้ในช่วงความถี่ 2.4 GHz ถึง 5 GHz28 และมีเสาสัญญาณคู่เพื่อการสื่อสารที่ลื่นไหล ความถี่ 5 GHz รวมถึงการรองรับ 2x2 MIMO (IEEE 802.11a/b/g/n/ac) ที่ให้ความเร็วในการถ่ายโอน FTP แบบไร้สายเร็วกว่ากล้อง Alpha 9 II ถึง 3.5 เท่า ซึ่งเป็นประโยชน์ที่โดดเด่นสำหรับช่างภาพข่าวและช่างภาพกีฬาที่ต้องการส่งงานด้วยความเร็วที่ไม่มีสะดุด ทั้งยังมีขั้วต่อ USB Type-C® สำหรับรองรับการถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็วเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้งานได้กับคลื่นความถี่ 5G เช่น Xperia PRO ของ Sony และทำให้การถ่ายโอนข้อมูล (tethered) ไปยังคอมพิวเตอร์ระยะไกลทำได้ด้วยความเร็วสูงดังนั้นจึงจัดการไฟล์ภาพขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้กล้อง Alpha 1 ยังมีขั้วต่อ 1000BASE-T LAN ในตัวสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงและมีความเสถียร ซึ่งรวมถึงการถ่ายภาพในระยะไกลด้วย กล้องตัวนี้รองรับการใช้งาน FTPS (การถ่ายโอนไฟล์ผ่านเทคโนโลยี SSL/TLS) ซึ่งช่วยให้สามารถเข้ารหัสข้อมูล SSL หรือ TLS เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้ข้อมูล 

นอกเหนือจากไฟล์ RAW แบบบีบอัดและไม่บีบอัดแล้ว กล้อง Alpha 1 ก็ยังมีคุณสมบัติการบีบอัดไฟล์ RAW ที่ไม่สูญเสียคุณภาพของรูปถ่าย ทั้งยังมีการตั้งค่าคุณภาพรูปถ่าย JPEG/HEIF แบบ “ไม่กินเนื้อที่” แบบใหม่ ทำให้ได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กลงกว่าการตั้งค่ารูปถ่ายแบบ “มาตรฐาน” ช่วยให้ช่างภาพข่าวและช่างภาพกีฬาที่ต้องอาศัยความเร็วเป็นสำคัญสามารถส่งผลงานได้เร็วขึ้น นอกจากจะมาพร้อมกับรูปแบบไฟล์ RAW และ JPEG ให้เลือกใช้อย่างอเนกประสงค์แล้ว กล้อง Alpha 1 ยังมีรูปแบบไฟล์ HEIF (ไฟล์ภาพประสิทธิภาพสูง) สำหรับการไล่ระดับสี 10 บิตที่ราบรื่น จึงสามารถให้การผลิตซ้ำภาพท้องฟ้าและตัวแบบที่จำเป็นต้องไล่ระดับสีอย่างละเอียดประณีตและเป็นธรรมชาติได้อย่างสมจริงยิ่งขึ้น ภาพที่ถ่ายด้วยกล้อง Alpha 1 สามารถตัดแต่งภายในตัวกล้องเพื่อให้ได้อัตราส่วนกว้างยาว ขนาด หรือตำแหน่งที่ต้องการ จึงรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย

นอกจากนี้กล้อง Alpha 1 ยังใช้งานได้กับแอป อุปกรณ์เสริม และเครื่องมือต่างๆ อีกมากมาย แอป Imaging Edge Mobile และ Imaging Edge Desktop29 ช่วยให้เหล่ามืออาชีพสามารถถ่ายโอนไฟล์ RAW และไฟล์ที่ใช้การบีบอัดได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพไปง่ายๆ ทั้งยังสามารถควบคุมฟีเจอร์ Touch Tracking และ Touch Focus ได้ในระยะไกลอีกด้วย คุณจึงใช้งานโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างสะดวก ฟีเจอร์เสริมอย่างการถ่ายโอนและการแท็ก (เวอร์ชัน 1.3 หรือใหม่กว่า) สามารถแปลงบันทึกเสียงที่ติดมากับไฟล์รูปภาพไปเป็นคำบรรยายข้อความหรือถ่ายโอนไฟล์จากอุปกรณ์มือถือไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP ได้30 แอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป Catalyst Browse/Catalyst Prepare25 ช่วยให้เหล่ามืออาชีพเรียกดูและจัดการคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยกล้อง Sony ได้ นอกจากนี้ฟังก์ชัน Remote Camera Tool31 ยังช่วยให้คุณเปลี่ยนการตั้งค่ากล้องได้จากระยะไกลและถ่ายภาพโดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ผ่านทางสาย LAN ได้ ซึ่งจะมีการปรับแต่งให้เลือกมากมายสำหรับกล้อง Alpha 1 ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนที่รวดเร็วขึ้น การตอบสนองต่อระบบสัมผัส ช่องเสียบคู่ การรองรับภาพ HEIF และอื่นๆ อีกมากมาย
 

ผู้ใช้มืออาชีพไม่ได้ต้องการแค่คุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ปรับปรุงดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องการความเสถียรและความทนทานในเครื่องมือระดับมืออาชีพทั้งหมดที่ตนใช้ด้วย กล้อง Alpha 1 มีช่องเสียบการ์ดสองช่องที่รองรับทั้งการ์ด UHS-I และ UHS-II SDXC/SDHC รวมถึงการ์ด Cfexpress Type A รุ่นใหม่ด้วย เพื่อให้ศักยภาพโดยรวมสูงขึ้นและความเร็วในการอ่าน/เขียนเร็วขึ้น อีกทั้งตัวเครื่องยังเป็นแมกนีเซียมอัลลอยที่ทนทาน แบตเตอรี่เป็นซีรีส์ Z ที่มีระยะการใช้งานยาวนาน ทั้งยังสามารถขยายระยะเวลาใช้งานให้นานออกไปได้อีกเมื่อใช้กริปแนวตั้ง VG-C4EM เสริมเข้ามา (จำหน่ายแยกต่างหาก) คุณสมบัติการกันฝุ่นได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น มีฟังก์ชันการปิดชัตเตอร์บนปุ่มปิดเพื่อปกป้องเซนเซอร์ภาพ ทั้งยังมีคุณสมบัติกันฝุ่นและความชื้น32ที่ขยายขีดความเสถียรได้สูงสุดในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย กล้องมีขั้วต่อ HDMI Type-A ที่ทนทาน เสถียร และรองรับการใช้งาน USB PD (Power Delivery) ช่วยให้สามารถรับพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้สูงขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้บันทึกวิดีโอได้เป็นระยะเวลานานโดยใช้แบตเตอรี่ภายในเพียงเล็กน้อย

โครงสร้างเมนูที่ปรับปรุงใหม่มอบการนำทางที่ง่ายดายขึ้น การใช้งานเมนูที่ตอบสนองต่อระบบสัมผัสให้การควบคุมที่รวดเร็วและง่ายดายขึ้นด้วยโหมด Touch Focus และ Touch Tracking บนหน้าจอ LCD ขนาด 3.0 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านจุด (โดยประมาณ) และในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าย่อยที่อยู่ภายในการตั้งค่าการถ่ายรูปของกล้อง เพื่อให้คุณปรับแต่งเองได้ง่ายๆ ตามโหมดการถ่ายภาพที่เลือก จึงทำให้การใช้รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ และการตั้งค่าอื่นๆ สำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอทำได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย 

กล้องฟูลเฟรม Alpha 1 แบบเปลี่ยนเลนส์ได้จะมีให้เลือกซื้อในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เป็นต้นไป

สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์โดยละเอียด โปรดไปที่ https://www.sony-asia.com/electronics/interchangeable-lens-cameras/ilce-1