บทวิจารณ์

More than a Hat-trick บทความรีวิวกล้อง Alpha 7R IV ของ Sony

ถึงแม้ว่าผมจะทุ่มเทเงินกับกล้องแบรนด์อื่นๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านการถ่ายภาพที่แตกต่างกันไว้อย่างเต็มที่แล้ว แต่กล้อง Alpha 7R ของ Sony ก็ทำให้ผมประทับใจมากจนผมซื้อไปใช้ทันที

นั่นเป็นเรื่องเมื่อหกปีที่แล้ว

ตอนนี้ผมมีกล้องซีรีส์ Alpha 7R ของ Sony ทุกรุ่นไว้ใช้ เพราะโดยหลักแล้ว กล้องซีรีส์นี้เข้ากันได้กับเลนส์หลายประเภทของแบรนด์อื่น ทำให้ผมสามารถใช้ระบบเพียงระบบเดียวกับอุปกรณ์ของผมได้อย่างเรียบง่าย

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ผมจะดีใจสุดขีดเมื่อได้ยินว่า Sony ประกาศเปิดตัวกล้องAlpha 7R IV ซึ่งถือเป็นกล้องฟูลเฟรมไร้กระจกตัวที่สิบของ Sony


 

by โดย Darren Soh

Article Categories

Body Category
Lens Category
Banner

กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกันกับกล้องAlpha 7R ของ Sony ดั้งเดิมไม่เพียงแต่เข้ากันได้กับเลนส์หลายประเภทได้อย่างสุดยอดเหมือนกับกล้องรุ่นก่อนเท่านั้น แต่ยังมีสเปคและฟีเจอร์อื่นๆ ที่ดียิ่งขึ้นและทำให้ผมได้คำนิยามใหม่ของการถ่ายภาพไปเลย

ผมจะอธิบายว่ากล้อง Alpha 7R ของ Sony ช่วยให้ผมถ่ายภาพได้ดีขึ้นเยอะกว่าเดิมอย่างไรในรีวิวนี้

Alpha 7R IV | 35mm | 1/320 sec | f/8 | ISO 100

ความประทับใจแรกพบและ Ergonomics

1. ซีรีส์ Alpha 7R series ไม่ได้มีการอัปเกรดตัวกริปแค่เพียงแบบเดียวหรือสองแบบเท่านั้น แต่ถึงสามแบบด้วยกัน โดยปกติ ตัวกริปจะไม่มีความสำคัญอะไร เนื่องจากในปัจจุบันมีกล้องที่มีขนาดเล็กลงและกะทัดรัด ซึ่งมีระบบกล้องไร้กระจกแต่เปลี่ยนเลนส์ได้ แม้กระทั่งตัวกริปของรุ่น Alpha 7R ดั้งเดิมยังดูบานออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะปรับปรุงใหม่ในรุ่น Alpha 7 II และ Alpha 7 III อย่างไรก็ตาม กล้อง Alpha 7R ก็เป็นกล้องที่โดนใจเรื่องความสบายและการใช้งานง่าย ใช่แล้ว กริปจับได้ทำให้กล้องดูมีขนาดใหญ่ที่สุดในซีรีส์ Alpha แต่จะว่าไปก็ไม่ได้ดูใหญ่เทอะทะเหมือนกับกล้อง DSLR เลยหรือกล้องฟูลเฟรมไร้กระจกของแบรนด์คู่แข่ง

2. ข้อเสียอย่างหนึ่งของกล้องรุ่น Alpha 7R และ Alpha 7R II ก็คือปุ่มที่ให้ความรู้สึกบอบบางและเหมือนผ่านการใช้งานมาไม่มากพอ Sony ก็เลยขอความคิดเห็นจากช่างภาพเกี่ยวกับจุดนี้และก็ได้ปรับปรุงปุ่มของกล้องรุ่น Alpha 9 และ Alpha 7R III และผมก็ดีใจที่จะแจ้งให้ทราบว่ามีการปรับปรุงปุ่มของกล้องรุ่น Alpha 7R IV เพิ่มเติมแล้ว สิ่งที่ปรับปรุงอาจจะแนบเนียนจนแทบมองไม่เห็น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องรุ่นอื่นๆ คุณก็จะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน ขอชื่นชม Sony ที่รับฟังเรื่องนี้นะ!

Alpha 7R IV | 123mm | 1/250 sec | f/8 | ISO 100

3. ช่องเสียบการ์ด SDXC ยังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้มีความทนทานยิ่งขึ้น (เนื่องจากส่วนนี้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา) และกันน้ำมากขึ้นด้วย นี่คือส่วนเล็กน้อยที่ได้รับการปรับปรุง แต่ผู้ที่ใช้กล้องตลอดเวลาอย่างผมก็รู้สึกขอบคุณมาก

4. Sony ได้เพิ่มปุ่มล็อคตรงหน้าปัดชดเชยแสงที่อยู่ตรงแผ่นด้านบนของกล้อง Alpha 7R IV ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มองว่าหน้าปัดแบบเดิมของกล้องรุ่นเก่าๆ จะเป็นปัญหามากเท่าไหร่ เช่น เผลอปรับชดเชยแสงโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมก็เห็นช่างภาพคนอื่นๆ มีปัญหากับหน้าปัดแบบเก่ากัน เป็นเรื่องดีที่ Sony ได้เลือกที่จะปรับปรุงจุดเล็กน้อย (แต่สำหรับหลายๆ คนแล้วก็สำคัญ) แบบนี้อีกครั้ง

การปรับปรุงตัวกล้อง Alpha 7R IV ใหม่เป็นมากกว่าแค่ส่วนต่างๆ ที่ทำให้ภาพรวมของกล้องดียิ่งขึ้น เมื่อคุณหยิบกล้องตัวนี้ขึ้นมาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง คุณก็จะรู้ว่าผมกำลังพูดถึงอะไรตอนที่บอกว่ากล้องรุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่ารุ่น Alpha 7R III เยอะเลย
 

กล้อง Alpha 7R IV | 158 มม. | 1/10 วินาที | f/11 | ISO 100

ความยากง่ายในการใช้งาน
 

1. พอมาถึงขั้นนี้แล้ว เราทุกคนก็รู้กันว่า Sony ทำอะไรกับข้างในตัวกล้อง Alpha 7R IV บ้างที่ทำให้กล้องรุ่นนี้เหนือกว่าคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจกล้องจากข้อมูลในกระดาษก็แตกต่างจากการหยิบกล้องขึ้นมาใช้เป็นอย่างมาก

เรามาเริ่มจากช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Viewfinder-EVF) กันก่อน Sony เป็นผู้บุกเบิกการใช้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์มาโดยตลอด และก็เป็นที่รู้กันดีว่าผู้ผลิตกล้องก็ได้ขอสิทธิ์อนุญาตในการใช้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ของ Sony มาใช้กับกล้องที่ดีที่สุดของตนเองด้วย ดังนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ EVF ใหม่ของกล้อง Alpha 7R IV ของ Sony สุดยอดจริงๆ

Sony ไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มใช้ฟีเจอร์นี้เป็นครั้งแรก แต่เป็นกล้องของแบรนด์อื่น คนส่วนน้อยอย่างเราๆ ที่รู้เรื่องก็ได้ “เห็นตัวอย่าง” ฟีเจอร์ EVF ใหม่นี้ไปแล้วจากการลองใช้กล้องรุ่นอื่นๆ เพราะเรารู้ว่า Sony จะรวบรวมนวัตกรรมทั้งหมดที่มีทั่วหน่วยธุรกิจของบริษัท (ส่วนงานเซ็นเซอร์ + ส่วนงานจอไมโครดิสเพลย์ OLED) เราก็เลยรู้ว่าเราจะได้เห็นอะไร

ตอนนี้ กล้อง Alpha 7R IV มีจอไมโครดิสเพลย์ UXGA OLED ที่ดีที่สุดที่มีความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซลเมื่อเทียบกับกล้อง Alpha 7R III ที่มีความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล ซึ่งก็หมายความว่าผมได้สัมผัส EVF ที่สมจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มา สำหรับงานถ่ายภาพสถาปัตยกรรมของผม ผมก็สามารถเก็บรายละเอียดที่เล็กที่สุดของอาคาร เมื่อซูมผ่าน EVF ได้

2. การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ในส่วนอื่นๆ รวมถึง 1) ความสามารถในการกำหนดสีของฟังก์ชัน Focus Bracketing ใน EVF เป็นสีแดงแทนที่จะเป็นสีขาว และเมื่อโฟกัสไม่สำเร็จ ไฟก็จะกะพริบเป็นสีชมพู 2) ช่องเสียบการ์ด SDXC สามารถทำงานด้วยความเร็วสูง UHS-II 3) ปรับปรุงระบบเมนูและ 4) เพิ่มฟังก์ชันที่ทำให้คุณคัดลอกการตั้งค่าเมนูจากกล้อง Alpha 7R IV ตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่งได้ผ่านการ์ด SD และสุดท้าย 5) แอป Imaging Edge ตัวใหม่ยังทำให้คุณสามารถควบคุมกล้อง Alpha 7R IV แบบไร้สายได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอก การปรับปรุงเล็กน้อยทั้งหมดทั้งมวลนี้เมื่อรวมกันแล้วก็ทำให้การถ่ายภาพด้วยกล้อง Alpha 7R IV เรียบง่ายยิ่งขึ้น และผมกล้าพูดได้เลยว่าเป็นกระบวนการที่เพลิดเพลินเมื่อเทียบกับการทำซ้ำที่ผ่านมาของกล้อง Alpha 7R

Alpha 7R IV | 18mm | 1/125 sec | f/8 | ISO 100

คุณภาพของภาพ
 

1. Sony ได้ชูจุดขายของกล้องรุ่น Alpha 7R IV ว่าเป็นกล้องฟูลเฟรมขนาด 35 มม. ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับกล้อง “Medium Format” มาโดยตลอด ผมรับรองได้เลยว่านี่ไม่ใช่แค่ข้อความโฆษณาทางการตลาดเท่านั้น เพราะการยกระดับจากความละเอียด 42 เมกะพิกเซลของรุ่น Alpha 7R III มาเป็นความละเอียด 61 เมกะพิกเซลของรุ่น Alpha 7R IV ก็เป็นข้อแตกต่างอย่างมหาศาลที่ทำให้ขั้นตอนการทำงานและภาพที่ถ่ายออกมาของผมดีขึ้นกว่าเดิม

กล้องที่มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 61 เมกะพิกเซลทำให้ผมสามารถถ่ายภาพขนาดใหญ่ขึ้น (ผมก็ถ่ายรูปขนาดนี้ค่อนข้างเยอะอยู่) ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มกับไฟล์ นอกจากนี้ หากผมต้องการครอปภาพตามสัดส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1x1 (สี่เหลี่ยมจัตุรัส) หรือ 2.5x1 (พาโนรามา) ภาพก็ยังคงมีความละเอียดสูงอยู่ดีที่ 40 เมกะพิกเซลสำหรับรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสและ 36 เมกะพิกเซลสำหรับภาพพาโนรามา มหัศจรรย์จริงๆ! สำหรับช่วงการรับแสงและระดับของสัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นักจากเซ็นเซอร์แบบเก่าของรุ่น Alpha 7R III

Exterior of HDB bulding taken with 4 shot pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบไม่มีการขยับพิกเซล | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100 | 24 มม.
Exterior of HDB bulding taken with 4 shot pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบมีการขยับพิกเซล 4 ช็อต | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100 | 24 มม.
Exterior of HDB bulding taken with 4 shot pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบมีการขยับพิกเซล 16 ช็อต | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100 | 24 มม.
Exterior of HDB unit taken with no pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบไม่มีการขยับพิกเซล | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100
Exterior of HDB unit taken with 4 shot pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบมีการขยับพิกเซล 4 ช็อต | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100
Exterior of HDB unit taken with 4 shot pixel shift. with Sony Alpha 7R IV
กล้อง Alpha 7R IV แบบมีการขยับพิกเซล 16 ช็อต | 24 มม. | 1/160 วินาที | f/11 | ISO 100

2. เวลาที่คุณถ่ายภาพโดยขยับพิกเซลร่วมด้วย กล้อง Alpha 7R IV ของ Sony ก็กลายเป็นขุมพลังแห่งการถ่ายภาพให้ได้ความคมชัดและรายละเอียดสูง ยิ่งไปกว่านั้น โหมด Pixel Shift รุ่นที่สองก็แบ่งออกเป็นสองโหมดด้วยกัน ซึ่งก็คือโหมดขยับพิกเซล 4 ช็อต ความละเอียด 120 เมกะพิกเซลและโหมดขยับพิกเซล 16 ช็อต ความละเอียด 240 เมกะพิกเซล

โหมด Pixel Shift ยังทำให้กล้องอยู่ในโหมด Electronic Shutter โดยอัตโนมัติอีกด้วย ซึ่งจะมีการเลือกช่วงเวลาระหว่างช็อตที่น้อยที่สุดด้วย แน่นอนว่า คุณต้องมีขาตั้งกล้องที่แข็งแรงจริงๆ และวัตถุที่ไม่เคลื่อนไหวเพราะคุณกำลังถ่ายภาพช็อตเดียวที่ประกอบไปด้วยรูปเดี่ยวๆ สี่หรือสิบหกรูป ดังนั้น ขาตั้งกล้องที่มั่นคงจึงสำคัญที่สุด การใช้ขาตั้งกล้องอาจดูต้องทำอะไรเยอะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถ่ายกลางแจ้ง) แต่เชื่อผมเถอะว่าผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่ง คุณจะได้ช็อตที่มีความละเอียดมากขึ้น โดยไม่มีสัญญาณรบกวนระหว่างการถ่ายภาพเลย
 

Alpha 7R IV | 24mm | 1/25 sec | f/8 | ISO 100

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าว
 

สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับระบบนิเวศของกล้องฟูลเฟรมไร้กระจกของ Sony และวิธีที่แบรนด์อัปเกรดกล้องต่างๆ กล้องรุ่น Alpha 7R IV ก็เหมือนกับรายการฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ช่างภาพอยากให้มีในกล้องรุ่นก่อนๆ ในซีรีส์ Alpha 7R

ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ NP-FZ100 ของกล้องรุ่น Alpha 9 ถูกรวมไว้ในรุ่น Alpha 7R III ตอนเปิดตัว อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือฟังก์ชันโฟกัสอัตโนมัติในรุ่น Alpha 7R III ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่แล้วในรุ่น Alpha 7R IV

ช่างภาพแต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างกันไป งานของผมส่วนใหญ่จะเป็นการถ่ายภาพพื้นที่และอาคารที่จะหายไปจากโลกนี้ในอีกทศวรรษ เพื่อเก็บไว้เป็นบันทึก เพราะฉะนั้น ความต้องการของผมชัดเจนมาก ก็คือการได้ช็อตที่มีคุณภาพด้วยกล้องที่กะทัดรัด เก็บภาพได้รวดเร็วและใช้งานได้ สำหรับผมแล้ว กล้องซีรีส์ Alpha 7R โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Alpha 7R ก็ดีที่สุดแล้ว

แต่ถ้าความต้องการของคุณคล้ายกับผมและคุณก็วางแผนว่าจะซื้อกล้องรุ่น Alpha 7R IV ก็ช่วยตัวเองด้วยการใช้การ์ด SDXC UHS-II (300MB/s) ที่ถ่ายโอนอย่างรวดเร็วเท่านั้น วิธีนี้จะทำให้คุณมั่นใจว่ากล้องจะสามารถเขียนไฟล์ได้จากบัฟเฟอร์ได้รวดเร็วตามที่ได้รับการออกแบบมา นอกจากนี้ ก็ลองพิจารณาซื้อขาตั้งกล้องที่แข็งแรงจริงๆ ด้วย หากคุณวางแผนว่าจะขยับพิกเซล แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว!

 

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ:
ความคิดเห็นในสื่อสิ่งพิมพ์นี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน และไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความเห็นของ Sony ประเทศสิงคโปร์

Footnote
  1. จากที่ Sony ทำการสำรวจเกี่ยวกับกล้องดิจิทัลที่มีเซ็นเซอร์ภาพแบบฟูลเฟรมในเดือนกรกฎาคม 2019
  2. ตามการประมาณแล้ว
  3. ภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพตามเงื่อนไขของการทดสอบของ Sony
  4. สูงสุด 10 ภาพต่อวินาทีในโหมด “Hi+” แบบต่อเนื่อง และสูงสุด 8 ภาพต่อวินาทีในโหมด “Hi” แบบต่อเนื่อง อัตราภาพต่อวินาทีสูงสุดจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่ากล้อง
  5. ในโหมด JPEG (ละเอียดพิเศษ/ละเอียด) หรือโหมด RAW แบบบีบอัด
  6. ฟังก์ชันนี้ไม่ตรวจจับดวงตาของสัตว์
  7. ฟังก์ชัน “การตรวจจับ” ในเมนู ไม่สามารถตรวจจับดวงตาของสัตว์ได้
  8. ต้องมีแอปพลิเคชัน Image Edge เวอร์ชัน 2.0 หรือใหม่กว่าบนเดสก์ท็อป
  9. ผลการบันทึกวิดีโอแบบซูเปอร์ 35 มม. แบบ 4K จะทำให้ได้วิดีโอที่มีมุมมองที่ค่อนข้างแคบกว่า
  10. มาตรฐาน CIPA, การสั่นของกล้องแบบ Pitch/Yaw เท่านั้น, Planar T* เลนส์ FE 50 มม. F1.4 ZA, ปิด Long exposure NR
  11. จะต้องมีแอปพลิเคชัน Imaging Edge (Remote/Viewer/Edit) เวอร์ชัน 2.0 หรือใหม่กว่าบนเดสก์ท็อปสำหรับการจัดองค์ประกอบภาพ ซึ่งเนื่องจากอาจไม่สามารถทำการจัดองค์ประกอบภาพได้หากการเคลื่อนไหวของกล้องหรือวัตถุก่อให้เกิดภาพที่ไม่ชัดเจน รวมถึงมีข้อจำกัดบางประการของแฟลชและอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย
  12. จะมีการเปิดตัว ‘Remote’/’Viewer’/’Edit’ เวอร์ชัน 2.0 ในเดือนสิงหาคม 2019
  13. ตรวจจับได้เฉพาะแสงกะพริบ 100 Hz และ 120 Hz ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องอาจลดลง การถ่ายภาพไม่ให้มีแสงกะพริบจะไม่สามารถใช้ได้ในระหว่างการถ่ายภาพในโหมดเงียบ การใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ หรือการบันทึกวิดีโอ
  14. จะต้องมีแอปพลิเคชัน Imaging Edge เวอร์ชัน 7.2 หรือใหม่กว่าสำหรับมือถือ และจะต้องเปิดใช้การตั้งค่า “Cnct. during power off” ในกล้อง นอกจากนี้ ยังต้องจับคู่เชื่อมต่อกล้องและสมาร์ทโฟนโดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth® ผ่านทางแอปพลิเคชัน Imaging Edge สำหรับมือถือ
  15. เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์นี้กับโทรทัศน์ Sony ระบบ HDR (HLG) ที่เข้ากันได้โดยใช้สาย USB เมื่อต้องการเล่นภาพยนต์แบบ HDR (HLG)
  16. ไม่บันทึกเสียง จะต้องใช้การ์ด SDHC/SDXC คลาส 10 ขึ้นไป
  17. ไม่รับรองการกันฝุ่นและความชื้น 100%
  18. จะต้องใส่แบตเตอรี่ในตัวกล้องเมื่อมีการชาร์จไฟผ่านสายเชื่อมต่อ USB
  19. สามารถดูหน้าเว็บความช่วยเหลือของ Sony เพื่อทราบรายละเอียดและข้อมูลความเข้ากันได้ของกล้องได้ที่ https://www.sony.net/dics/b1m/
  20. สามารถดูหน้าเว็บความช่วยเหลือของ Sony เพื่อทราบรายละเอียดและข้อมูลความเข้ากันได้ของกล้อง
  21. สีและขนาดของผลิตภัณฑ์จริงอาจแตกต่างจากภาพ
  22. สีและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่แสดงอยู่อาจต่างกันตามรุ่นและในแต่ละประเทศ
  23. 4K: 3,840 x 2,160 pixels
  24. การให้บริการขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของซอฟต์แวร์/บริการที่ติดตั้งหรือเข้าถึงได้ผ่านผลิตภัณฑ์อาจถูกเปลี่ยนแปลง หยุด นำออก พัก หรือยุติสัญญาได้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  25. คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
Article Theme

เราต้องการขอการเข้าถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของคุณเพื่อมอบประสบการณ์ที่กำหนดเองให้กับคุณ โปรดทราบว่าคุณสามารถถอนความยินยอมของคุณได้ตลอดเวลาผ่านการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ