• ติดตั้งกล้องอย่างปลอดภัยบนขาตั้งกล้อง

การถ่ายภาพดาราศาสตร์ + เลนส์ซูม = คู่บุญ

FE 12-24mm F2.8 GM เป็นเลนส์กล้องสุดน่าตื่นตาตื่นใจที่คุณควรมีไว้สำหรับการถ่ายภาพดาราศาสตร์ เนื่องจากรูรับแสงคงที่ F2.8 ที่ 12 หรือ 24mm เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการถ่ายทิวทัศน์ตอนกลางคืน โดยสามารถเก็บแสงในปริมาณที่มากเป็นพิเศษสำหรับเลนส์ที่มีช่วงโฟกัสระดับนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ทางยาวโฟกัสกว้างพิเศษยังสามารถจับภาพมุมกว้างของทิวทัศน์และท้องฟ้ายามค่ำคืนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งยังช่วยให้คุณได้รับความคล่องตัวและความยืดหยุ่นที่โดดเด่นในการจัดองค์ประกอบภาพ โดยสามารถซูมได้สูงสุดถึง 24mm เพื่อบีบอัดฉากและบันทึกรายละเอียดของทิวทัศน์ โดยไม่จำเป็นต้องโฟกัสใหม่ทุกครั้ง

เลนส์ตัวนี้ยังช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์ให้กับฉากถ่ายภาพ เช่น ภาพ "การระเบิด" ของทางช้างเผือกที่ (ซึ่งคุณสามารถสร้างได้โดยการบิดวงแหวนซูมขณะเปิดชัตเตอร์)

แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเลนส์ซูม 12-24mm

ด้วยเลนส์ซูมตัวนี้ คุณจะพบว่าทุกสิ่งเป็นไปได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด นี่เป็นเพียงภาพบางส่วนจากภาพหลากหลายรูปแบบที่คุณสามารถถ่ายด้วยเลนส์เอนกประสงค์ตัวนี้ได้

ความยืดหยุ่นขนาด 12-24mm พร้อมค่าคงที่ F2.8

ระยะซูม 12-24mm (ระยะเท่ากันด้วยระดับการซูมที่หลากหลาย)

ภาพต้นไม้กลายเป็นหินของหุบเขาเมกาลอง

สถานที่สำหรับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ที่ฉันโปรดปรานที่สุดแห่งหนึ่งในเทือกเขาบลูคือถนนที่อยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาเมกาลอง ซึ่งมีต้นไม้ที่กลายเป็นหินตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ดึงดูดให้ช่างภาพยอมเสี่ยงมาเพื่อเก็บภาพนี้

ในคืนนี้ ดวงจันทร์ยังคงลอยอยู่เหนือท้องฟ้าในขณะที่ทางช้างเผือกตกลงไปทางทิศตะวันตก จึงทำให้มีแสงที่ดูทรงพลังทั่วทั้งแนวนอนและทอดเงาในลักษณะที่ทำให้ภาพดูน่ากลัว ซึ่งทำให้ฉันต้องถ่ายมันไว้ด้วย Alpha 7C และ FE 12-24mm F2.8 GM ของฉัน!

ต้นไม้ต้นนี้อยู่ห่างจากแนวรั้วเพียง 3 เมตร ซึ่งฉันสามารถตั้งค่าขาตั้งกล้องและกล้องได้ ดังนั้น การที่เลนส์มอบความสามารถได้อย่างรอบด้านของทางยาวโฟกัสกว้างพิเศษ 12mm ทำให้ฉันสามารถถ่ายภาพฉากนี้ได้อย่างง่ายดาย แม้ในขณะที่ต้นไม้อยู่ห่างออกไป

เมื่อคุณถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ 12mm ให้พิจารณาเสมอว่าภาพถ่ายของคุณกว้างแค่ไหน และตรวจดูสิ่งรอบตัวเพื่อหาสิ่งรบกวนที่คุณอาจไม่ได้สังเกต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่มืด

คำแนะนำจากมือโปร: การจำลองแสงจันทร์อันละเอียดอ่อน
แสงจันทร์บางส่วนอาจเป็นประโยชน์สำหรับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นแสงจันทร์ส่องฉากของคุณจากด้านหลัง หรือเศษเสี้ยวของดวงจันทร์ที่โผล่ออกมาจากด้านบนหรือด้านล่างของทางช้างเผือก คุณยังสามารถใช้วัตถุที่อยู่เบื้องหน้าเพื่อ "ซ่อน" ดวงจันทร์ ในขณะที่ปล่อยให้มันทำให้ฉากของคุณสว่างขึ้นและสร้างเงาที่สวยงามและน่าทึ่งได้

หากทิวทัศน์ไม่มีแสง (ทำให้ยากต่อการเลือกรายละเอียดจากเงา) ให้ลองใช้ไฟ LED ที่มีลูเมนต่ำ (เรียกอีกอย่างว่าแสงระดับต่ำ) เพื่อจำลองแสงจันทร์อันละเอียดอ่อนให้องค์ประกอบของคุณ และหากคุณลำบากใจ คุณก็สามารถสร้างสรรค์และใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือของคุณได้เช่นกัน!

Time-lapse: Capturing a landscape, over time
One of the most beautiful aspects of astrophotography is the time-lapse video, which is made up of photographs taken over a period of time. In seconds, a time-lapse video can showcase the gorgeous changes that happen over an entire night – and captivate audiences.

ความเป็นไปได้สำหรับการถ่ายภาพไทม์-แลปส์ของคุณที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่เคล็ดลับเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเริ่มต้นถ่ายได้:

• จัดองค์ประกอบของคุณ: ก่อนที่จะเริ่มถ่ายไทม์-แลปส์ ให้ดูฉาก การจัดองค์ประกอบ และพิจารณาว่ามีแนวโน้มอะไรที่จะเปลี่ยน การเคลื่อนไหวของสิ่งที่คุณจะถ่าย และไม่ว่าอะไรก็ตามที่อาจจะรบกวนการถ่ายภาพของคุณ (เช่นวัตถุที่เข้ามาใกล้ฉาก)
• ทดลองถ่ายสองถึงสามภาพ: ตรวจสอบภาพของคุณเพื่อหาโฟกัส ตรวจสอบองค์ประกอบที่ทำให้เสียสมาธิ ที่อาจทำให้ตามองไม่ชัด และตรวจสอบแสงให้แน่ใจว่าคุณกำลังถ่ายภาพรายละเอียดในส่วนของฉากหน้าที่สามารถดึงออกมาแก้ไขได้ในภายหลัง
• ตั้งค่า "ฟังก์ชั่นช่วงเวลาในการกดชัตเตอร์": เพื่อรักษาการเคลื่อนไหวของดวงดาวและท้องฟ้าในไทม์แลปส์แอสโตรของคุณ ให้ใช้ฟังก์ชันช่วงเวลาในการกดชัตเตอร์บนกล้องและตั้งค่าช่วงเวลาให้เท่ากับการเปิดรับแสงของคุณ สิ่งนี้ทําให้มั่นใจได้ว่าทันทีที่ชัตเตอร์ปิดในเฟรมเดียวจะเปิดขึ้นทันที
• เมื่อเสร็จสมบูรณ์: ส่งออกเฟรมของคุณจากนั้นนำเข้า Adobe After Effects, Adobe Premier, Davinci Resolve หรือ LRTimelapse มีแหล่งข้อมูลออนไลน์มากมายเกี่ยวกับวิธีการรวมไทม์แลปส์ของคุณลงในไฟล์วิดีโอขั้นสุดท้าย
• การเคลื่อนไหวเพิ่มเติม: คุณสามารถแนะนําการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมในไทม์แลปส์ของคุณโดยการตั้งค่ากล้องบนเมาท์ติดตามโรเตอร์แบบใช้มอเตอร์หรือแถบเลื่อนแบบใช้มอเตอร์

ภาพ "การระเบิด" ของทางช้างเผือก

ด้วยมุมที่กว้างเป็นพิเศษ เลนส์ซูม FE 12-24mm F2.8 GM ให้คุณได้มีโอกาสมากมายในการเล่นกับองค์ประกอบของคุณ และในการถ่ายภาพดวงดาวนั้น ความเก่งกาจของเลนส์ตัวนี้ยังเพิ่มตัวเลือกในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายของคุณ ช่วยให้คุณถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใครได้อย่างแท้จริงเหมือนกับภาพ "การระเบิด" ของทางช้างเผือกภาพนี้!

ในการถ่ายภาพดวงดาวและทิวทัศน์ยามค่ำคืนนั้น เรามักพูดกันว่า 24mm คือระยะโฟกัสที่เล็กที่สุดที่ใช้งานได้เมื่อถ่ายภาพทางช้างเผือก (ก่อนที่คุณจะพิจารณาเปลี่ยนเป็นภาพพาโนรามา)

การมีช่วงระยะเต็มตั้งแต่ 12mm ถึง 24mm และรูรับแสง F2.8 คงที่ (โดยไม่จำเป็นต้องปรับโฟกัสใหม่ตลอดช่วงระยะทั้งหมด) ทำให้คุณได้มีโอกาสเล่นกับองค์ประกอบภาพ บีบอัดคุณลักษณะต่างๆ เช่น ประภาคาร ไม่ว่าการเข้าใกล้วัตถุที่อยู่ต่ำและใกล้กับพื้นดินหรือการขึ้นที่สูงเพื่อถ่ายฉากกว้างๆ ทั่วทิวทัศน์

คำแนะนำจากมือโปร: จงแตกต่าง
เมื่อออกไปถ่ายภาพ พยายามจับภาพที่แปลกใหม่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ช่างภาพจำนวนมากก็ได้จับภาพทางช้างเผือกหรือเส้นแสงดาวกันไปแล้ว และอาจรวมเข้ากับคุณลักษณะที่รู้จักกันดีในทิวทัศน์นั้นๆ ด้วย

เพื่อให้ภาพดาราศาสตร์ของคุณดูโดดเด่น ให้ลองค้นหาสิ่งที่ไม่ซ้ำใครเพื่อถ่ายภาพ ลองนึกถึงการเข้าใกล้ฉากจากมุมมองที่ต่างออกไป โฟกัสไปที่วัตถุที่น่าสนใจซึ่งอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งดาวมาโครและโบเก้ หรือเพียงแค่ถ่ายภาพองค์ประกอบอื่นของท้องฟ้ายามค่ำคืน

คุณยังสามารถใช้เทคนิคที่สร้างสรรค์ เช่น เครื่องมือวาดภาพด้วยแสงเพื่อทำให้ภาพถ่ายของคุณแตกต่างจากเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของคุณได้ ลองมองหา “ภาพถ่ายที่หาได้ยาก” ​ซึ่งสามารถทำให้ภาพของคุณเจิดจรัสขึ้นได้ เช่น อุกกาบาต ออโรรา ไฟจักรราศี ดาวเทียม หรือแสงแฟลร์อิริเดียม แม้ว่าบางสิ่งเหลานี้คุณจะไม่สามารถเก็บได้ง่ายๆ แต่คุณสามารถเก็บภาพบางสิ่งเหล่านี้ได้แน่นอน!

การถ่ายภาพด้วยเทคนิคการกดชัตเตอร์สปีดค้างไว้อันน่าดึงดูดใจ

นี่คือตัวอย่างการถ่ายภาพด้วยเทคนิคกดชัตเตอร์สปีดค้าง ในการถ่ายให้ได้ภาพแบบนี้ คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล้องของคุณอยู่กับที่ตลอดระยะเวลาการกดชัตเตอร์ คุณสามารถทำได้โดยยึดกล้องเข้ากับขาตั้งกล้องให้แน่นหนา และตรวจดูให้แน่ใจว่าขาตั้งกล้องตั้งอยู่บนพื้นแข็ง

เปิดขาตั้งสามขาให้กว้างที่สุดเสมอเพื่อสให้ขาตั้งมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากลมและทำให้กล้องอยู่นิ่งมั่นคง

เป็นอีกครั้งที่มุมกว้างของ FE 12-24mm F2.8 GM เป็นอะไรที่น่าทึ่งอย่างภาพสำหรับการถ่ายภาพเหล่านี้ ทั้งให้มุมมองที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพท้องฟ้าอันกว้างใหญ่และทิวทัศน์ที่มีรายละเอียดสวยงาม โดยการถ่ายด้วยเทคนิคกดชัตเตอร์สปีดค้าง

คำแนะนำจากมือโปร: สิ่งสำคัญคือสถานที่!
เมื่อคุณเริ่มถ่ายภาพเป็นครั้งแรก คุณควรเยี่ยมชมสถานที่ที่ช่างภาพคนอื่นๆ มาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ สถานที่เหล่านั้นจะทำให้คุณได้ภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับโซเชียลมีเดียของคุณ!

แต่อย่าเพิ่งยึดติดกับสถานที่ยอดนิยมเหล่านี้ ออกไปที่นั่นและมองหาองค์ประกอบที่น่าสนใจ คุณอาจพบแนวคิดใหม่ๆ เมื่อมองดูอาคารและโครงสร้างจากมุมต่างๆ หรืออาจพบมุมถ่ายภาพหินที่ก่อเรียงตัวกันอยู่บนชายฝั่ง หรืออาจได้มุมเด็ดกว่านั้น ใครจะไปรู้ คุณอาจจะได้พบกับน้ำตกที่สวยงามซึ่งเหมาะกับการเก็บภาพของคุณได้อย่างลงตัวเพื่อให้คุณได้ถ่ายภาพสายน้ำที่มีทางช้างเผือกอยู่บนท้องฟ้า

มีสถานที่ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครมากมายรอให้คุณค้นพบ! ขณะสำรวจ อย่าลืมเคารพสิ่งแวดล้อมและสถานที่ส่วนบุคคลของผู้อื่น และคุณควรมั่นใจว่าได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพในสถานที่ที่คุณเลือกอยู่เสมอ

ความงดงามของการถ่ายภาพดวงดาว

ประสบการณ์อันน่าทึ่งของการดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปลอดโปร่งไม่มีอะไรบดบังเป็นสิ่งที่มักจะพลาดอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอาศัยอยู๋ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง แต่เมื่อคุณออกเดินทางมาถ่ายภาพกาแล็กซี่กับกล้องของคุณ ทุกอย่างจะดูมีความหมายใหม่ทันที

นี่คือการตั้งค่าการถ่ายภาพดวงดาวที่ผมชอบน Alpha 7C ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นใช้งาน (ก่อนที่จะค้นหาจุดถ่ายภาพที่โปรดปราณของคุณบนกล้องของคุณ)

• ไม่มีรีโมท? ไม่ต้องกังวล เพียงแค่ใช้ 2 วินาที แต่จำไว้ว่า ไฟจับเวลาที่ด้านหน้ากล้องสามารถส่องแสงสีส้มในภาพถ่ายของคนอื่นได้ ดังนั้น จัดการให้ดีโดยแปะเทปพันสายไฟสีดำที่ไฟจับเวลาเยอะๆ
• ลองใช้ Dynamic Range Optimiser (DRO) หากทิวทัศน์ของคุณมืดมาก โปรดจําไว้ว่าสิ่งนี้ใช้กับไฟล์ JPG เท่านั้น ดังนั้นการแก้ไขและการควบคุมของคุณจะจำกัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับการมีไฟล์ RAW

• หากทิวทัศน์ของคุณมืดจนเกินไป คุณสามารถใช้ "โปรไฟล์รูปภาพ" ได้เช่นกัน PP3 ให้เอฟเฟ็กต์เกรนในระยะไดนามิกเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกด้วยสีที่ลดลง (แกมมา) อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ (ในระดับหนึ่ง) ในขั้นตอนการตัดต่อภาพของคุณ
• ระบบช่วยโฟกัสสามารถช่วยในการค้นหาจุดโฟกัสที่ดีที่สุดของดวงดาวของคุณ โดยเฉพาะในรูปรับแสงที่กว้าง โดยเน้นที่ดวงดาว (ที่คุณอาจพลาดไป) ในส่วนขยายโฟกัส
• ตั้งค่าส่วนการเลือกตัวค้นหา/จอภาพแสดงเป็นปุ่ม (ปกติผมใช้ปุ่มตรงกลางบนหน้าปัด) วิธีนี้จะช่วยลดการใช้แบตเตอรี่เมื่อถ่ายภาพเส้นแสงดวงดาวหรือภาพไทม์แลปส์

• เปิดใช้งานความสว่างของหน้าจอ เพื่อเพิ่มแนวไดนามิกให้มากขึ้นในโหมด Liveview ของคุณ สิ่งนี้สามารถช่วยได้จริงๆเมื่อฉากมืด

• ใช้ฟังก์ชั่นหน่วยความจำของกล้องเพื่อบันทึกการตั้งค่า Astro ของคุณ ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถสลับมาเปิดการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันยังสลับกลลับไปเป็นการตั้งค่าแบบปกติได้ในพริบตา สิ่งนี้ทำให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดการถ่ายรูปสัตว์ป่า หรือช่วงเวลากับครอบครัว ในขณะที่ปรับ iso ของคุณและการเปิดรับแสงของคุณกลับไปเป็นการตั้งค่าเวลากลางวัน

เมื่อคุณใช้เวลาอยู่ภายใต้ดวงดาวของคุณ คุณได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับวัตถุบนท้องฟ้าที่พบในช่วงเวลาต่างๆของปี คุณศึกษากลุ่มดาว สังเกตการเคลื่อนไหวของโลกที่สร้างการเคลื่อนไหวที่เราเห็นให้กับเส้นแสงดวงดาว และอื่นๆ อีกมากมาย

ความรู้ทั้งหมดนี้จะเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพดวงดาวและถ่ายเปลี่ยนประสบการณ์แต่ละอย่างให้กลายเป็นเรื่องที่ไม่เหมือนใคร และน่าหลงใหล มันเป็นตวามหลงใหลที่นำผมไปสู่การสำรวจโลกจากมุมมองใหม่ ในขณะที่มันเพิ่มรูปแบบการถ่ายภาพด้วยเทคนิคใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น

และผมถ่ายภาพทั้งหมดนี้ ด้วยกล้องคู่ใจของผม Alpha 7C เลนส์ไพร์ม FE 14mm F1.8 GM และเลนส์ซูม FE 12-24mm F2.8 GM